“โกลเบล็ก” มอง SET พ.ค. ไซด์เวย์ คัด 5 หุ้นเด่นรับ “ไมโครซอฟท์” ลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์
“บล.โกลเบล็ก” มอง SET พ.ค. แกว่งไซด์เวย์ หลังเฟดคงดอกเบี้ย 5.25-5.50% แนะจับตาการประกาศงบไตรมาส 1/2567 ของบริษัทจดทะเบียน ให้กรอบดัชนี 1,330-1,380 จุด แนะลงทุน 5 หุ้นรับประโยชน์ไมโครซอฟท์ลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ ได้แก่ INSET-SYMC-INET-ITEL-TKC
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ในเดือนพฤษภาคม 2567 ว่า มีแนวโน้มแกว่งตัวในลักษณะไซด์เวย์ (Sideway) ออกข้าง หลังจากการประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารสหรัฐ (FOMC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งจะสะท้อนถึงความกังวลว่าเงินเฟ้อของสหรัฐจะยังไม่ปรับตัวลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%
ล่าสุด สหรัฐเปิดเผยมีการรายงานตัวเลขขาดดุลการค้าลดลง 0.1% สู่ระดับ 6.94 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. 67 แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.91 หมื่นล้านดอลลาร์ และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างลดลง 0.2% จากเดือนก่อนหน้าในเดือนมี.ค. 67 สวนทางที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อน หลังจากทรงตัวในเดือนก.พ. 67 แต่ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 192,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. 67 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 183,000 ตำแหน่งหลังจากเพิ่มขึ้น 208,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. 67
ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด และการรายงานตัวเลขภาพรวมเศรษฐกิจ โดยล่าสุด กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วงครึ่งแรกของปี 67 (ตุลาคม 2566-มีนาคม 2567) อยู่ที่ 1.16 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 27,819 ล้านบาท เนื่องจากกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ พร้อมปรับลดเป้าหมายเศรษฐกิจไทย (GDP) ของปี 67 ใหม่ เติบโต 2.4% จากเดิม 2.8% เหตุจากการส่งออกหดตัว ภาวะภัยแล้งส่งผลกระทบผลผลิตสินค้าเกษตร
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนในเดือนเม.ย. 67 ของไทยพลิกบวกครั้งแรกหลังจากติดลบต่อเนื่อง 6 เดือน เนื่องจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงตามสถานการณ์พลังงานในตลาดโลกในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ โดยดัชนี CPI ลดลง 0.55% จากช่วงเดียวกันของปปีก่อน ขณะที่แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพ.ค. 67 คาดการณ์ว่าจะปรับตัวสูงขึ้น สาเหตุจากฐานราคาค่ากระแสไฟฟ้าเดือนพ.ค. 66 อยู่ในระดับต่ำ ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และขาดแคลนน้ำในบางพื้นที่ โดยประเมินเงินเฟ้อในไตรมาส 2/67 ขยายตัวในช่วง 0.8-1.0% และช่วงที่เหลือของปีน่าจะเป็นบวกต่อเนื่อง
ด้านกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่าการส่งออกเดือนมี.ค. 67 ลดลง 10.9% จกาช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนจากที่ก่อนหน้านี้ขยายตัวต่อเนื่อง 7 เดือนติดต่อกัน และต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 4.0 ถึง 5.9% ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ส่วนตัวเลขการส่งออกของไทยลดลง 0.2% จากปีก่อน ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ ยังคงตั้งเป้าหมายการส่งออกทั้งปี 67 ตามเดิม โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1-2% จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,350-1,420 จุด
นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตาปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นการลงทุนต่อเนื่อง อาทิ ปัจจัยในประเทศ วันนี้ (8 พ.ค. 67) ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.), วันที่ 10 พ.ค. 67 สมาชิกภาพของวุฒิสภาครบวาระ 5 ปีนับจากวันแต่งตั้ง วันที่ 15 พ.ค. 67 กำหนดวันสุดท้ายในการส่งงบการเงินงวดไตรมาสว 1/67, วันที่ 20 พ.ค. 67 สภาพัฒน์แถลงตัวเลข GDP ในไตรมาสแรกของปีนี้, วันที่ 31 พ.ค.67 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ไม่มีการประชุมกนง.ในเดือนพ.ค.67
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ วันนี้ (8 พ.ค. 67) สหรัฐรายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค. 67 และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และวันที่ 9 พ.ค. 67 จีนรายงานดุลการค้าเดือนเม.ย. ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ดังนั้น ฝ่ายวิเคราะห์จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากตัวเลขการส่งออกสินค้าในเดือน มี.ค.67 ที่ยังเติบโต โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์ ได้แก่ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA, บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER, บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB, บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH, บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO, บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC และ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI
รวมทั้งกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนของไมโครซอฟท์ที่จะเข้ามาลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ ได้แก่ บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) หรือ INSET, บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SYMC, บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET, บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL และ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินว่า แนวโน้มราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากอิหร่านได้โจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธใส่อิสราเอลช่วงกลางเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา หลังจากอิสราเอลโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย
ทั้งนี้ นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน หลังเจ้าหน้าที่อิสราเอลระบุว่าการที่อิสราเอลโจมตีอิหร่านเพื่อตอบโต้ที่อิหร่านส่งโดรนและขีปนาวุธใส่ในช่วงกลางเดือน เม.ย. เป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์มากกว่าที่มีจุดประสงค์เพื่อทำลายล้างอิหร่าน ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 30 เม.ย.-1พ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 23 ปี
รวมทั้งเฟดจะลดวงเงินพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่จะปล่อยให้ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติม เหลือเพียง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่คงวงเงิน MBS ที่จะปล่อยให้ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่มีการซื้อเพิ่มเติมอยู่ที่ระดับ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังเดือนมิ.ย. 67
โดยฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ความรุนแรงระหว่างอิหร่านและอิสราเอลได้คลี่คลายแล้ว และทองคำกลับมาเคลื่อนไหวสวนทางกับเงินดอลลาร์ทำให้เราคาดว่าการปรับตัวขึ้นแรงแบบในเดือน มี.ค.-เม.ย. ได้ผ่านไปแล้ว ขณะที่เฟดมีโอกาสเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปจนถึงเดือน พ.ย. ทำให้ทองคำยังถูกกดดันจากต้นทุนทางการเงินที่สูง มองกรอบราคาทองคำในเดือนนี้ที่ 2,250-2,375 เหรียญต่อออนซ์