โบรกแนะซื้อ TOP เป้า 65 บ. หลังงบ Q1 โตเกินคาดรับ “สต๊อกเกน” หนุน
บล.ดาโอ มองบวก TOP หลังโชว์กำไรไตรมาส 1/67 เติบโต 30% เฉียด 6 พันล้านบาท อานิสงส์การสต๊อกเกนหนุน แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 65 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (10 พ.ค.67) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ราคาเป้าหมาย 65 บาท หลังบริษัทรายงานกำไรไตรมาส 1/67 แกร่งกว่าคาดการณ์ โดยมีการรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 5.90 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 99% จากไตรมาสก่อนหน้า สูงกว่าฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 17% และตลาดคาดการณ์อยู่ที่ 22%
โดยมีตัวเลขดำเนินงานที่สำคัญ คือ 1.ธุรกิจโรงกลั่นรายงานกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย EBITDA อยู่ที่ 8.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 494% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการรับรู้กำไรจากการสต๊อก (stock gain) ในขณะที่ค่าการกลั่น (market GRM) อยู่ที่ 9.0 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 25% จากไตรมาสก่อนหน้า) โดยลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามส่วนต่างระหว่างราคาน้ำ (crack spread) ที่อ่อนตัวแต่ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้าจากราคาส่วนเพิ่มของน้ำมันดิบที่กลั่น เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันดิบอ้างอิง (crude premium) ที่ลดลง
อีกทั้ง บริษัทรายงาน stock gain อยู่ที่ 82 ล้านบาท เทียบกับขาดทุน ลดลง 3.3 พันล้านบาทในไตรมาส 1/66 และ ลดลง 5.20 พันล้านบาทในไตรมาส 4/66 และ 2.ธุรกิจปิโตรเคมี (อะโรเมติกส์และโอเลฟินส์) มี EBITDA รวมที่ 960 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อนหน้า) สูงขึ้นตามอัตรา product-to-feed (P2F) ที่สูงขึ้นเป็น 67 เหรียญต่อตัน เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 22% จากไตรมาสก่อนหน้า
3.ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน (TLB) รายงาน EBITDA อยู่ที่ 322 ล้านบาท (ลดลง 72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและลดลง 19% จากไตรมาสก่อนหน้า) ซึ่งลดลงสอดคล้องกับ P2F margin ที่อ่อนตัวเป็น 90 เหรียญต่อตัน ลดลง 48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและลดลง 7% จากไตรมาสก่อนหน้า)
สุดท้าย 4) รายการส่วนอื่นๆ ซึ่ง TOP ได้รายงานการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 871 ล้านบาท เทียบกับกำไร 571 ล้านบาทในไตรมาส 1/66 แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาทในไตรมาส 4/66 รวมทั้งมีการขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงินอยู่ที่ 110 ล้านบาท เทียบกับกำไร 486 ล้านบาทในไตรมาส 1/66 และไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 920 ล้านบาท