EVER โกยรายได้ Q1 แตะ 370 ล้าน โต 24% จ่อเปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่า 1.2 พันลบ.
EVER รายงานงบไตรมาส 1/67 กวาดรายได้ไตรมาส 1/67 แตะ 370 ล้านบาท โต 24% กางแผนปี 67 เตรียมเปิดอีก 2 โครงการใหม่ มูลค่า 1.2 พันล้านบาท รุกตลาดแนวราบ หนุนผลงานโตต่อเนื่อง
นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “เดอะโพลิแทน” ทำเลย่านสนามบินน้ำ, โครงการแนวราบ-บ้านเดี่ยว แบรนด์ “มายโฮม” ทำเลย่านสุวินทวงศ์ และโครงการแนวราบ-ทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ซิตี้” เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567) มีรายได้รวม 372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73 ล้านบาท หรือ 24% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 299 ล้านบาท ขณะที่ขาดทุนลดลงเหลือ 66 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 104 ล้านบาท
สำหรับรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากโครงการแนวราบเป็นหลัก ได้แก่ โครงการ ซิลเวอร์เลค วินด์ เฟส 1 และเฟส 2 โครงการเอเวอร์ซิตี้ รีซอร์ต้า สุขสวัสดิ์ 30-ราษฎร์บูรณะ ขณะที่มีการรับรู้จากโครงการแนวสูง “เดอะ โพลิแทนรีฟ” และ “เดอะ โพลิแทน อควา” เข้ามาสนับสนุน
โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ โดยหันมาให้ความสำคัญกับการขยายโครงการแนวราบ รองรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นเรียลดีมานด์ ซึ่งได้รบการตอบรับอย่างดีเยี่ยมทั้งจากการเปิดขายโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม
“ในปี 2567 บริษัทฯเตรียมเปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่า 2,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ “เอวาริส-ราชพฤกษ์ตัดใหม่” จำนวน 128 ยูนิต ซึ่งเป็นบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว มูลค่า 630 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2567 และเปิดขายเฟสต่อเนื่อง บ้านเดี่ยวแบรนด์ “มายโฮม” โครงการซิลเวอร์เลค วินด์ เฟส 3 จำนวน 31 ยูนิต จากมูลค่าคงเหลือเฟส 1 – 2 อีก 31 ยูนิต มูลค่า 530 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5.99 -15 ล้านบาท/แปลง ในไตรมาส 4/2567 ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายสวิจักร กล่าว
โดยเมื่อวันที่ 11-12 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ เปิดพรีเซลโครงการ “เอวาริส-ราชพฤกษ์ตัดใหม่” ราคาเริ่มต้น 3.79 ล้าน ในสไตล์ Modern Portugese ผสานความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบยุโรปให้เข้ากับยุคสมัย โดยมีจุดเด่นการออกแบบให้มีระดับเพดานสูงถึง 2.9 เมตร จัดวางพื้นที่บ้านเป็นสัดส่วน และตกแต่งด้วยช่องเปิดหน้าต่าง รวมถึงประตูกว้าง เพื่อให้ตัวบ้านโล่งโปร่งสบาย นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบ Home Security& Automation, EV Charger และ Solar Roof ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมียอดจอง 10 ยูนิต
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการขายธุรกิจโรงพยาบาล จำนวน 3 แห่ง มูลค่า 700 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้นและได้รับเงินในปี 2567