BH ดาวเด่นหุ้นโรงพยาบาล

คุณค่าบริษัท

กลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้ง สำหรับบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ เน้นจับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเป็นหลัก ซึ่งรายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิ 1,984 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,583 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 6,576 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 6,091 ล้านบาท

โดยในไตรมาสนี้มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 6,516 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.7% หลัก ๆ มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทยโต 9.0% และผู้ป่วยต่างชาติโต 7.1% ส่งผลให้รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทยคิดเป็นสัดส่วน 33.5% ในขณะที่รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยต่างประเทศคิดเป็น 66.5% เทียบกับในไตรมาส 1/2566 ที่มีสัดส่วนกลุ่มผู้ป่วยชาวไทยคิดเป็น 33.1% และกลุ่มผู้ป่วยต่างประเทศคิดเป็น 66.9%

ขณะที่ มีต้นทุนกิจการโรงพยาบาล (รวมค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย) จำนวน 3,146 ล้านบาท ลดลง 0.1% ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีเมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกิจการโรงพยาบาล เป็นผลให้สัดส่วนของต้นทุนกิจการโรงพยาบาลต่อรายได้จากกิจการโรงพยาบาลลดลงเป็น 48.3% เทียบกับ 52.1% ในไตรมาส 1/2566

ด้านค่าใช้จ่ายในการบริหาร (รวมค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย) ในไตรมาส 1/2567 ลดลง 0.9% จากช่วงเดียวกันของปี 2566 โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ที่ลดลง อีกทั้งกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของบริษัทเพิ่มขึ้น 21.7% เป็น 2,676 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) คิดเป็น 40.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 36.1% และมีอัตรากำไรสุทธิ 30.2% สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 26%

ด้านมุมมองนักวิเคราะห์ยังมองบวกต่อผลประกอบการของ BH โดย บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุว่า ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ในไตรมาส 2/2567 โต single digit แม้รับผลกระทบรอมฎอนลดลงเหลือ 9 วัน แต่ยังรับผลกระทบวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ ขณะที่ควบคุมรายจ่ายได้ดี คาดหนุนกำไรโตเกิน 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ คาดช่วงที่เหลือปีนี้ผู้ป่วยต่างชาติจะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในครึ่งปีหลัง แม้จะได้รับผลบวกจากการปรับขึ้นราคาเพียง 4% หนุนให้คาดกำไรปีนี้จะเติบโต 12.9% และโตต่อเนื่องในปีหน้าอีก 8.3% ขณะที่ BH เป็นโรงพยาบาลพรีเมียมที่มีฐานลูกค้าต่างชาติแข็งแกร่งสุด และเป็นโรงพยาบาลที่มี ROE สูงสุดในกลุ่ม

ฟากบล.เอเซีย พลัส ระบุว่า มีมุมมองเป็นกลางต่อ BH จากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 ที่เติบโตโดดเด่น สนับสนุนจากจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามารักษาโรคซับซ้อนยังสูง ถึงแม้จำนวนคนไข้ตะวันออกกลางจะลดลงจากผลกระทบของรอมฎอน ส่วนแนวโน้มในไตรมาส 2/2567 คาดกำไรปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อน จากการเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น

ผลการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าเติบโตได้จากคนไข้ต่างชาติที่ฟื้นตัว ในขณะที่โรงพยาบาลใหม่ภูเก็ตจะเป็นแรงขับเคลื่อนผลประกอบการระยะยาว ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ผลการดำเนินงานเติบโตเฉลี่ย 9% ต่อปี ในปี 2567-2570

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น BH ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 26.75 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 17.74 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 7.67 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.32 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 287.40 บาท จากราคาต่ำสุด 243 บาท และราคาสูงสุด 310 บาท