ลงแล้วซื้อ
ทุกครั้งที่ดัชนีทะยานขึ้น เดี๊ยนมักดีใจออกนอกหน้า และที่ทุกครั้งที่ดัชนีเริ่มอ่อนแรง เดี๊ยนมักมีอาการห่อเหี่ยวเป็นประจำ
ทุกครั้งที่ดัชนีทะยานขึ้น เดี๊ยนมักดีใจออกนอกหน้า และที่ทุกครั้งที่ดัชนีเริ่มอ่อนแรง เดี๊ยนมักมีอาการห่อเหี่ยวเป็นประจำ แต่ถึงกระนั้นก็ยังดีใจที่วงรอบการขึ้นลงยังอยู่ในระดับ 1,350-1,400 จุด จึงมองว่า การทรุดตัวลงมายืนปิดที่ระดับ1,364.48 จุด ลบไป 3.36 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.57 หมื่นล้านบาท น่าเป็นจังหวะของการซื้อเล่นสั้นรอบใหม่ เพื่อลุ้นผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ให้ออกมาดีกว่าที่คาดไงล่ะคะ
งานนี้จะ “ทำได้” หรือ “ทำไม่ได้” ก็ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จึงต้องดูสถานการณ์แบบวันต่อวัน โดยมีจุดสังเกตอยู่ที่ภาพเศรษฐกิจฟื้นตัวขนาดไหน? และอย่าได้เชื่อน้ำคำของนักการเมืองที่สวมหัวโขนในตำแหน่งต่าง ๆ เพราะสิ่งที่คนเหล่านั้นพ่นน้ำลายเอาไว้ ล้วนมีแต่เรื่องชวนอาเจียนแทบทั้งสิ้น แถมเรื่องที่ควรจะทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ดันเลือกทำในเรื่องที่สร้างปัญหาให้กับตัวเองน่ะซี
ในเมื่อรู้ว่า สถานการณ์หลายอย่างไม่เป็นเหมือนที่คาดการณ์ ก็เป็นจังหวะของการถอยรับเพื่อลดความเสี่ยงในการเล่นรอบ เพราะจุดรับของที่ทุกคนพร้อมใจในช่วงครึ่งปีกว่าอยู่ที่ระดับ 1,350 จุด “โมนิก้า” เลยขอเดาว่า การใช้วิธีทยอยรับของน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสุดในภาวะแบบนี้ และในที่นี้มีทั้งหุ้นซิ่ง และหุ้นไม่ซิ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับนักเล่นมีสไตล์การเล่นหุ้นแบบไหนพะย่ะค่ะ
ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้นอาหารแมวอย่าง ITC เป็นตัวแรก เพราะหุ้นมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาพยายามเทคตัวฝ่าแนวต้าน 23 บาท แต่ยังทำไม่สำเร็จเหมือนที่คาดหวัง ส่งผลให้ราคาหุ้นแกว่งตัวไปมาในกรอบ 20.50-21.50 บาทสักพัก จนล่าสุดหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 22.50 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 6.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 547 ล้านบาท จึงเป็นเกมที่น่าสนใจขึ้นมาทันทีจ้า!
เช่นเดียวกับการทะยานขึ้นต่อเนื่องของ SAV จนล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 22.10 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 176 ล้านบาท โดยระหว่างวันขึ้นไปทำ all time high ที่ระดับ 23.10 บาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในภาวะตลาดหุ้นแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบเดิม ๆ ผนวกกับการขึ้นเที่ยวนี้มาพร้อมกับตัวเลขกำไรที่ดีขึ้น จึงกลายเป็นเกมที่น่าตามไปลุ้นแบบเกาะขอบเวทีนะจะบอกให้
ส่วนคนที่ชอบลุ้นให้หุ้นเด้งกลับ “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่รถไฟฟ้ามาหานะเธอ BTS หลังราคาหุ้นมีอาการซึมมาระยะหนึ่ง แต่ก็มีบางจังหวะที่ฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ไหลลงอยู่ดี เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 5.90 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 0.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 322 ล้านบาท น่าเป็นจังหวะที่เหมาะต่อการซื้อเล่นสั้น ๆ เพราะหุ้นมีสิทธิ์ที่จะเด้งค่อนข้างสูง..ถ้าไม่เด้ง ก็เปิดตูดเท่านั้นแหละ
คล้ายกับในรายของ EA เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง จนราคาหุ้นประคองตัวปิดที่ระดับ 23.80 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.33 พันล้านบาท ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่เหมาะสำหรับคนชอบลุ้น เพราะเมื่อดูตามสูตรการเล่นที่ผ่านมา หุ้นต้องเด้งขึ้นเพื่อหาฐาน หลังลงมาค่อนข้างลึก จึงกลายเป็นเกมสำหรับคนที่ชอบลุย แถมเมื่อดูค่า PBV ที่ระดับ 2 เท่า ก็ถือว่าไม่สูงเกินไปนะตัวเอง
สำหรับรายที่ “ลงแล้ว ลงต่อ ลงอยู่” ต้องมองไปที่หุ้น BBIK หลังราคาหุ้นทิ้งดิ่งลงมาเรื่อย ๆ จนมองไม่เห็นจุดกลับตัวจะอยู่ตรงไหน? ก็เป็นหุ้นอีกตัวที่น่าสนใจในแง่ของการเด้งกลับ เพราะอาการไหลลงต่อเนื่องจากระดับ 55 บาท จนล่าสุดยังโดนถล่มลงมากองอยู่ที่ระดับ 33.75 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 6.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 107 ล้านบาท น่าจะมีจังหวะให้หุ้นเด้งกลับขึ้นมาบ้าง แต่ถ้าไม่เด้งเหมือนที่คิด ก็โกยเถอะโยม!
ตบท้ายกันที่หุ้นฟอร์มร้อนแรงอย่าง KCCAMC กันดีกว่า เพราะการพุ่งขึ้นพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.94 บาท บวกไป 0.46 บาท หรือขึ้นไป 18.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 71 ล้านบาท ทั้งที่ภาพโดยรวมของคนตามหนี้กำลังมีปัญหา “โมนิก้า” เลยสงสัยว่า อะไรจะมาเป็นตัวขับเคลื่อนให้ไตรมาส 2 เติบโตอย่างมีนัย แต่ไหน ๆ ตลาดหุ้นก็หาหุ้นเล่นยากอยู่แล้ว เลยไม่ขอทำตัวเป็นไอ้เข้ขวางคลองดีกว่า..ใครอยากจะลุยต่อก็เชิญเจ้าค่ะ
โมนิก้า: และทีมงาน