เปิดตัว “สมาคมนักลงทุนประเทศไทย” ตั้งเป้าสมาชิกแตะ 1 พันคน เสริมแกร่งตลาดทุนยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวรายงาน (29 พ.ค.67) ว่าทาง สมาคมนักลงทุนประเทศไทย (IAT) ได้จัดพิธีเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ The Aspen Tree at The Forestias (บางนา กม.7) โดยมี นายทิวา ชินธาดาพงศ์ นายกสมาคมนักลงทุนประเทศไทย เป็นประธานกล่าวเปิดงานในครั้งนี้ กล่าวถึงที่มาของสมาคมนักลงทุนประเทศไทยว่า “สมาคม” เกิดขึ้นจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนนักลงทุนร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ในการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศให้กับประชาชนทั่วไปและนักลงทุนมืออาชีพ

ทั้งนี้จุดเด่นของสมาคม คือมีความตั้งใจที่ต้องการเผยแพร่ความรู้ให้กับทุกคน โดยไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งหากสมาคมมีรายได้เข้ามาก็จะมอบให้กับมูลนิธิ รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อให้คนไทยมีอิสรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น

นอกจากนี้จะพานักลงทุนไปลงทุนต่างประเทศ เพื่อจะเข้าไปนัดเยี่ยมชมบริษัทต่างๆ ให้มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจมากขึ้น หรือเรียกกันว่า Company Visit (CV) จึงจำเป็นต้องสร้างตัวตนขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในบางองค์กร และเพิ่มประสิทธิภาพ ความเชื่อมั่นให้กับสมาคม โดยเริ่มสร้างแพลตฟอร์มช่องทางสื่อหลากหลายทาง เพื่อให้เป็นที่ตอบรับมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่ชอบการลงทุน

อย่างไรก็ดี ทางสมาคมฯ เริ่มมีความสนใจในตลาดหุ้นจีน มองว่าประเทศจีนเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก เป็นประเทศที่พัฒนารวดเร็วที่สุด อาจมองว่ามีการลงทุนดีๆ แน่นอน ซึ่งการพานักลงทุนไปยังจีนเป็นการเปิดโอกาส โดยไม่ต้องปรับตัวมาก มองว่านักลงทุนเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนค่อนข้างมาก รวมถึงสะดวกในการเดินทาง ประกอบกับมีบริษัทที่มีศักยภาพระดับโลกที่จะสามารถเติบโตเป็น Global Company จึงอยากเพิ่มโอกาสให้กับนักลงทุน

“โดยทางสมาคมตั้งใจอย่างมากที่จะเป็น Community ศูนย์องค์กรแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ เพื่อไม่ทำให้ทุกคนมีการได้เปรียบหรือเสียเปรียบในเรื่องของข้อมูล และได้รับประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของสมาคมนักลงทุนประเทศไทย โดยเป็นสิ่งที่เราโฟกัสอย่างมาก” นายทิวา กล่าว

ขณะเดียวกัน นายวีระชัย ศรีพยัคฆ์ อุปนายกและเลขาธิการสมาคมนักลงทุนประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับการรวมตัวของสมาคมนักลงทุนประเทศไทย ก็จะมีหลากหลายศาสตร์และหลายแขนงแตกต่างกันสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยที่ไม่ได้ยึดติดที่จะลงทุนในประเภทไหนทั้งที่มีประสบการณ์หรือยังไม่มีประสบการณ์สามารถที่จะเข้ามาร่วมในสมาคมได้

ส่วนมุมมองตลาดหุ้นจีนและเวียดนามมีความแตกต่างกันอยู่ระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง สภาพเศรษฐกิจ จึงมองว่าการลงทุนในตลาดดังกล่าว อาจมองเป็นเรื่องที่ไม่ได้ง่าย ซึ่งหากสมาคมสามารถที่จะ CV ไปยังตลาดต่างประเทศได้ก็จะสร้างความเชื่อมั่นเป็นช่องทางแรกที่จะพานักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลของต่างประเทศ

“สำหรับเบื้องต้นสมาคมได้เปิดไลน์กลุ่ม Open Chat ให้กับนักลงทุนทั่วไปที่สนใจเข้ามาร่วมรับข้อมูลข่าวสาร โดยในระยะเวลาอีก 1-2 เดือนข้างหน้าเตรียมทำเว็บไซต์เพื่อเปิดรับสมาชิกเพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นทางการจำนวน 1 พันคน ส่วนใหญ่กลุ่มเป้าหมายเป็นทุกกลุ่มที่ต้องการอยากแสวงหาความรู้ ให้ความสนใจด้านลงทุน นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรม Inverstor ช่วงปลายปี คาดจะจัดเดือนพฤศจิกายน ณ ตึก ทรู ดิจิทัล พาร์ค” นายวีระชัย กล่าว