พาราสาวะถี

ใครที่เป็นคอการเมืองคงมองเรื่อง เศรษฐา ตั้ง วิษณุ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และกรณี ทักษิณ ถูกอัยการสูงสุดสั่งฟ้องในคดีความผิดมาตรา 112


ใครที่เป็นคอการเมืองคงมองเรื่อง เศรษฐา ทวีสิน ตั้ง วิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และกรณี ทักษิณ ชินวัตร ถูกอัยการสูงสุดสั่งฟ้องในคดีความผิดมาตรา 112 เป็นเรื่องที่ล้วนแต่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับเกมการต่อรองอำนาจ ระหว่าง อำนาจเก่า กับ อำนาจปัจจุบัน แน่นอนว่า จะไม่มีจุดแตกหักจนนำไปสู่ความขัดแย้ง แตกแยกเหมือนที่ผ่านมาอีก เนื่องจาก อำนาจที่ทรงพลัง ไม่นิยมที่จะทำให้เกิดความปั่นป่วน เพื่อแก่งแย่งอำนาจ และทำให้บางอย่างต้องแปดเปื้อน มีมลทินไปด้วย

การเดินเกมตั้งรัฐบาลพลิกขั้ว ด้วยการชูประเด็นก้าวข้ามความขัดแย้ง อาจมองดูว่าเป็นการหาทางลงเพื่อที่จะจับมือกันของเพื่อไทย กับฝ่ายเผด็จการสืบทอดอำนาจเสียมากกว่า เป็นความจริงแค่บางส่วน เป้าหมายสำคัญของการดันให้เศรษฐาได้ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ เพื่อที่จะแก้ปัญหาความแตกแยก เป็นความต้องการฉายภาพให้ชัดว่า มีใครที่เกี่ยวข้องกับขบวนการเรียกร้องให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับอำนาจที่ทรงพลังบ้าง

จะเห็นได้นับตั้งแต่ทักษิณเดินทางกลับประเทศในวันเดียวกับที่มีการโหวตเลือกนายกฯ กระทั่งได้รับการพักโทษ จนถึงปมที่เศรษฐาถูก 40 สว.เข้าชื่อร้อง ล้วนแต่สอดสัมพันธ์กันในลักษณะของผู้ได้ประโยชน์ และฝ่ายที่เสียประโยชน์ เป้าหมายของการล้มเศรษฐาจึงเป็นเรื่องของคนที่ต้องการจะกระตุกฝ่ายกุมอำนาจให้เห็นค่า และเข้าใจว่ายังมีบารมีที่จะสร้างความสั่นคลอนต่อเสถียรภาพของรัฐบาลได้อยู่ เช่นเดียวกับนายใหญ่หากเหลิงอำนาจมากเกินไป มีโอกาสที่จะกลับเข้าซังเตได้

หากแต่กลไกที่ใช้ในการขับเคลื่อนเพื่อสร้างกระบวนการต่อรองนั้น เดิมทีหากยังเป็นรัฐบาลสืบทอดอำนาจ คราบไคลของเผด็จการ คสช.ยังคงหลงเหลืออยู่ บรรดาผู้ที่เคยได้รับส่วนบุญจากปลายกระบอกปืนย่อมมีความเกรงอกเกรงใจ แต่เมื่อนาทีนี้อำนาจดังกล่าวถูกกระชับจนแทบจะไม่มีที่ยืน ประกอบกับทิศทางการเมืองเปลี่ยนไป การกระทำดังกล่าวจึงทำได้ในลักษณะของการขู่เพื่อให้กลัวเท่านั้น โดยที่ฝ่ายถูกกระทำหาได้หวั่นไหวไม่

ต้องเข้าใจว่าในช่วงปลายของรัฐบาลสืบทอดอำนาจนั้น ความกลมเกลียวของขบวนการสืบทอดอำนาจไม่หลงเหลือแล้ว ยิ่งเมื่อตั้งรัฐบาลพลิกขั้ว ก็เด่นชัดเป็นอย่างยิ่งว่า ใครที่สูญเสียอำนาจในการนำ ใครที่แม้ดูเหมือนจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ยังหลงเหลือบารมีที่จะทำให้คนในเครือข่ายสามารถต่อรองกับฝ่ายกุมอำนาจในปัจจุบันได้ ขณะที่ผู้ซึ่งสูญเสียอำนาจในการนำนั้น ต้องประคับประคองสถานการณ์เพื่อให้พรรคที่ตัวเองกุมบังเหียน ยังสามารถต่อรองในแง่ของเก้าอี้ฝ่ายบริหารได้อยู่เท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ การที่เศรษฐาได้ไปเชื้อเชิญเนติบริกรชั้นครูมาช่วยงาน จึงเป็นการอ่านทางได้ถูกต้องว่า การจะแก้เกมของลิ่วล้อผู้ที่เคยยิ่งใหญ่ ต้องใช้ลักษณะหนามยอกเอาหนามบ่ง ผลงานจากที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเคยถูกร้องหลายหน แต่รอดมาได้ทุกคราวเป็นที่ประจักษ์ ใช่ว่าเพราะอำนาจของเผด็จการ คสช.ทั้งหมด ส่วนหนึ่งก็เกิดจากฝีมือในการเขียนคำชี้แจง ให้คำชี้แนะทางข้อกฎหมาย เพื่อให้ฝ่ายที่ตีความไม่ลำบากใจ สามารถที่จะอธิบายต่อสังคมได้ แม้บางเรื่องอาจมีความเคลือบแคลง แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าเกลียดจนคนรับไม่ได้

ขณะเดียวกัน ปมที่ว่าการก้าวเข้ามารับเก้าอี้แค่ที่ปรึกษาของเนติบริกรชั้นครูนั้น ไม่น่าจะเหมาะสมกับความรู้ ความสามารถ ที่เคยเป็นถึงอดีตรองนายกฯ ด้านกฎหมาย เอาเป็นว่าเรื่องหัวโขนไม่สำคัญ อยู่ที่บทบาท และภาระหน้าที่ที่จะได้รับมอบหมายมากกว่า การได้กลับมาทำงานในสถานที่ที่เติบใหญ่ในหน้าที่การงาน จนถึงขั้นสูงสุดของชีวิต ก็เป็นความสบายใจอย่างหนึ่ง การได้ใช้ความรู้ความสามารถที่มีให้เป็นที่ประจักษ์และยอมรับจากคนส่วนใหญ่ ถือเป็นความสำเร็จ และภาคภูมิใจยิ่งแล้ว

ไม่เพียงเท่านั้น ภารกิจที่ต้องเข้ามาแก้ไขส่วนที่เคยผิดพลาดจากกลไกของขบวนการสืบทอดอำนาจ และช่วยเหลือให้รัฐบาลพลิกขั้ว ที่จำนวนไม่น้อยก็เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลเรือเหล็กที่ตัวเองเคยร่วมงานกัน จึงเป็นการเข้ามาที่วิน-วินทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องการตกเป็นเป้าโจมตีของฝ่ายตรงข้าม หรือกลุ่มผู้มีอุดมการณ์ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องที่วิษณุจะต้องใส่ใจ หากแต่เป็นโจทย์ใหญ่ที่พรรคแกนนำรัฐบาลจะต้องรับไปเต็ม ๆ

ต้องไม่ลืมว่า ทุกท่วงทำนองของความเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งเศรษฐาและพรรคเพื่อไทย มันหมายถึงเดิมพันของการเลือกตั้งครั้งหน้า การจับมือกับพรรคที่สนับสนุนเผด็จการสืบทอดอำนาจ จนมาถึงการดึงเอามือกฎหมายสำคัญของขบวนการอยู่ยาวมาร่วมงาน ถือเป็นการเหยียบย่ำหัวใจคนที่ให้การหนุนหลัง แต่ในแง่ของแกนนำในพรรคนายใหญ่ รวมไปถึงผู้มีอำนาจที่แท้จริงในพรรค ต่างก็เชื่อในแนวทางเดียวกันว่า ถ้าชนะเลือกตั้งแล้วแต่ตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็เปล่าประโยชน์

ไม่ต้องไปมองว่าหลังเลือกตั้งครั้งหน้า จะไม่มีเสี้ยนหนามสำคัญอย่างพวกลากตั้งมาร่วมโหวตเลือกนายกฯ อีกแล้ว ต้องไม่ลืมว่า โจทย์สำคัญหลังเลือกตั้งคือ พรรคไหนรวมเสียงข้างมากได้ ถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่จะเป็นแกนนำในการตั้งรัฐบาล ถามว่า ถ้าก้าวไกลชนะเลือกตั้งโดยที่ได้เสียงไม่เกินกว่า 250 ที่นั่งขึ้นไป เพื่อไทยมาเป็นอันดับสองจะไปจับมือกันเพื่อทำหน้าที่ฝ่ายบริหารเช่นนั้นหรือ การแสดงออกของคนจากพรรครุ่นใหม่ ทำให้นักการเมืองอาชีพเห็นตรงกันแล้วว่า ทำงานด้วยยาก ตั้งรัฐบาลได้ก็มีโอกาสที่จะอยู่ไม่ยืด

เมื่อแนวโน้มทางการเมืองเป็นไปในลักษณะนี้ การที่กุมอำนาจบริหารย่อมมีความได้เปรียบ แต่ต้องใช้ให้เป็น มิเช่นนั้น ก็เสียหายเหมือนที่เผด็จการสืบทอดอำนาจพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา การเร่งสร้างผลงานในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนจึงเป็นเรื่องสำคัญ ก่อนที่จะไปถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในปลายปีนี้ จำเป็นที่เศรษฐาและองคาพยพต้องผลิตนโยบายด้านเศรษฐกิจปูพื้นให้คนเชื่อมั่นให้ได้ก่อน การตั้งไข่ของ ครม.เศรษฐกิจถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่จะต่อยอดได้ดีขนาดไหนนี่เป็นเครื่องหมายคำถามสำคัญ

อรชุน

Back to top button