ทักษิณและเศรษฐา
คำฟ้องที่ชี้ชะตากรรมของทักษิณ ชินวัตร ที่อัยการสูงสุดส่งเรื่องชี้ขาดออกมาแล้วเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา
คำฟ้องที่ชี้ชะตากรรมของทักษิณ ชินวัตร ที่อัยการสูงสุดส่งเรื่องชี้ขาดออกมาแล้วเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทำให้แผนการของทักษิณที่วางบทบาทการเมืองของเขาเองในฐานะนายกรัฐมนตรีตัวจริงโดยพฤตินัยและทำให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ โดยนิตินัยต้องถูกระงับไปโดยกะทันหัน
คำสั่งของอัยการสูงสุดที่มีคนตีความเป็น 2 แบบ แบบแรกถือว่าอัยการสูงสุดใช้ความกล้าหาญทางจริยธรรมเพราะถือว่าทักษิณไม่ควรได้รับการปฏิบัติที่ได้อภิสิทธิ์กว่าคนอื่นที่ถูกกล่าวหาในคดี 112 เหมือนกัน ส่วนอีกแบบหนึ่งตีความกันว่าอำนาจรัฐขวาจัดของพวก TUR (Thai Ultra Royalists) กำลังแสดงให้เห็นพลังในทางกฎหมายเพื่อทำลายความอหังการของทักษิณและตีชิ่งไปถึงพรรคเพื่อไทยด้วย
นักวิเคราะห์บางคนพูดเกินเลยไปถึงว่าหากนายกฯ เศรษฐาลาออกไปก่อนวันที่ 18 ทักษิณอาจจะรอด ซึ่งฟังดูแล้วขาดทั้งตรรกะและข้อเท็จจริง โดยเฉพาะที่กล่าวหาว่าทักษิณได้ทำข้อตกลงปีศาจกับใครบางคนที่อยู่หลังฉากอำนาจรัฐไทย อันเป็นคำอธิบายที่เลวร้ายอย่างยิ่ง
ในกรณีทักษิณนี้แม้จะชวนให้เข้าใจว่าอาจจะมีข้อตกลงที่ไม่เปิดเผยอยู่เบื้องหลังอำนาจรัฐไทย แต่ในทางปฏิบัติยังไม่อาจหาข้อพิสูจน์ได้ว่ามีข้อตกลงลับเกิดขึ้นจริง มีแต่พฤติกรรมของทักษิณเองที่ชวนให้เข้าใจว่ามีข้อตกลงลับดังกล่าว เช่น การที่อยู่ดี ๆ ก็เข้ามามอบตัวและยอมติดคุกซึ่งรู้กันทั่วไปว่าติดแต่ในนามเพราะได้รับอภิสิทธิ์จากกรมราชทัณฑ์ให้ไปนอนพักรักษาตัวในห้องหรูของโรงพยาบาลตำรวจและได้รับอภัยโทษเร็วกว่ากำหนดหลังจากที่อ้างเหตุผลว่าอยากกลับมาเลี้ยงหลานเพียงอย่างเดียว แต่กลับออกมาเดินสายเฉิดฉายทางการเมืองประหนึ่งเป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงของพรรคเพื่อไทยทั้งที่ยังมีชนักติดหลังเรื่องคดีความที่ถูกฟ้องร้องแล้วและยังไม่ถูกฟ้องร้องอีกมากมาย
บทบาทของทักษิณที่แสดงออกถึงอิทธิพลทางการเมืองเป็นที่รู้กันในวงในพรรคเพื่อไทยถึงเป้าหมายสามประการ คือ นำยิ่งลักษณ์กลับไทย ผลักดันให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ และฟื้นฟูพรรคเพื่อไทยให้ชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไป
คำประกาศล่าสุดของสำนักงานอัยการสูงสุดทำให้ทักษิณเล่นบทบาทนายกฯ โดยพฤตินัยไม่ได้อีกต่อไป ผลพวงจากการที่ทักษิณเล่นบทนายกฯ โดยพฤตินัยไม่ได้อีกต่อไปอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของนายกฯ โดยนิตินัยอย่างเศรษฐามากน้อยขนาดไหน ยังเป็นคำถามอยู่ เพราะด้านหนึ่งนายกฯ เศรษฐาอาจจะรู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจมากขึ้นไม่ถูกกดดันจากทักษิณ หรือในทางเลวร้ายอาจจะรู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะขาดหลังอิง
เรื่องนี้คงจะมีแต่ทักษิณและเศรษฐาที่รู้ดีกว่าใคร ๆ
วิษณุ โชลิตกุล