ความเหงาปกคลุมตลาด
อัตราความเจริญทางเศรษฐกิจไตรมาส 1 ที่วัดกันโดยมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพี แสดงผลเติบโตได้เพียงแค่ 0.5%
อัตราความเจริญทางเศรษฐกิจไตรมาส 1 ที่วัดกันโดยมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพี แสดงผลเติบโตได้เพียงแค่ 0.5% ขณะที่เพื่อนบ้านอาเซียนเจริญเติบโตกันโครม ๆ
ฟิลิปปินส์โตอันดับ 1 จีดีพี+5.7%, เวียดนามอันดับ 2 +5.66%, อินโดเนเซียอันดับ 3 +5.11%, มาเลเซียอันดับ 4 +4.2% และสิงคโปร์อันดับ 5 +2.7%
เครื่องจักรเศรษฐกิจเพื่อนบ้าน เดินเครื่องกันคึกคักแล้ว แต่เครื่องจักรเศรษฐกิจไทยแลนด์ยังไม่รู้หัวหรือก้อยอยู่เลย
ขณะเดียวกัน SET Index หรือดัชนีหลักทรัพย์ Q1 ก็ยังติดลบอยู่ในระดับ 2.6% จากดัชนีสิ้นปี 66 ที่ 1,415.85 จุด มายัง 1,377.94 จุด ณ สิ้น มี.ค. 67
สวนทางตลาดเพื่อนบ้านที่ฟื้นตัวกันอย่างคึกคัก
อันที่จริง ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ก็ไม่ถึงกับจะเลวร้ายอะไรนัก ยอดขายรวม 4.4 ล้านล้านบาท เติบโต 4.6% และกำไรสุทธิรวม 2.65 แสนล้านบาท ยังมีอัตราเติบโตที่ 1.7%
อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนหรือ D/E อยู่ที่ 1.5 เท่า ซึ่งในทางธุรกิจก็ถือว่า ไม่ได้พึ่งพาเงินกู้ยืมที่มีอัตราสูงแต่ประการใด
คงต้อง หันมามองเหตุแวดล้อมปัจจัยของตลาดหุ้นไทยในเวลานี้กันแล้วว่า ทำไมตลาดถึงซึมจัง เกิดจากเหตุปัจจัยอะไร นับแต่ต้นปีมาติดลบไปแล้วถึง 4.6%
เหตุปัจจัยทางด้านการกำกับดูแลตลาดหุ้น ช่วงก่อนหน้านี้ มีเรื่องให้นักลงทุนเสื่อมศรัทธาทั้งในเรื่องของโรบอทเทรดดิ้ง การทำชอร์ตเซลที่เกินเลย และคดีปั่นหุ้น แต่ปัจจุบันก็เริ่มมีการขยับปรับปรุงมาตรการวัวหาย ล้อมคอกกันบ้างแล้ว
การกำกับดูแลตลาดหุ้นน่าจะทันเกมทันการมากขึ้น
เหตุปัจจัยทางด้านรัฐบาล ก็ต้องยอมรับความจริงกันว่า รัฐบาลยังไม่มี “ของขวัญ” อะไรมามอบให้กับตลาดหุ้นเลย
ความทุ่มเทให้กับ “ดิจิทัล วอลเล็ต” ต้องใช้เวลายาวนานมาก และอาจจัดทำไม่สำเร็จในไตรมาส 4 ปีนี้ รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นใดมาทดแทน เสียงบ่นของประชาชนเรื่องปากท้องดังขึ้นเรื่อย ๆ
เหตุปัจจัยทางด้านการเมืองในประเทศ ไม่ดีเอาเสียเลย เหมือนมีระเบิดเวลา 3 ลูกรออยู่
ระเบิดเวลาลูกที่ 1 คือ คดีอัยการสั่งฟ้องทักษิณกรณีมาตรา 112 ซึ่งเหมือนกับคำประกาศกลาย ๆ ว่า เงื่อนไขพิเศษในการกลับมาของทักษิณนั้นเริ่มคลอนแคลน, ไม่อาจจะรับประกันได้ตลอดไป
ระเบิดเวลาลูกที่ 2 คือ กรณียุบพรรคก้าวไกล และระเบิดลูกที่ 3 สด ๆ ร้อน ๆ คือคดีฟ้องร้องเพิกถอนนายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งพิชิต ชื่นบาน
แต่งตั้งกันโดยเงื่อนไขส่วนตัวแท้ ๆ แต่พานายกรัฐมนตรีเข้าสู่วงล้อมของเครื่องจักรสังหารได้
การกลับมาของทักษิณและการเคลื่อนไหว ไม่ได้ช่วยอะไรรัฐบาลเลย กลับจะเป็นการดิสเครดิตรัฐบาลที่เป็นผู้บริหารประเทศไทยด้วยซ้ำ
ดราม่าทักษิณ เดี๋ยวป่วย เดี๋ยวออกไปเคลื่อนไหวการเมือง ช่างกระทบภาพลักษณ์รุนแรงต่อรัฐบาลเศรษฐายิ่งนัก
ตลาดหุ้นไทยยามนี้เหมือนคนป่วย มีแต่ปัจจัยลบ
ชาญชัย สงวนวงศ์