ซ้ำรอย 4 ปีก่อน

สิ่งที่ “โมนิก้า” พยายามเน้นย้ำเสมอก็คือ สถานการณ์ใน “อดีต” กับใน “ปัจจุบัน” มันมีอะไรที่แตกต่างกันบ้างไหม?


สิ่งที่ “โมนิก้า” พยายามเน้นย้ำเสมอก็คือ สถานการณ์ใน “อดีต” กับใน “ปัจจุบัน” มันมีอะไรที่แตกต่างกันบ้างไหม? เพราะจะเป็นตัวแปรที่บอกให้นักลงทุนได้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยสมควรที่จะทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมขนาดไหน? และในวันนี้ก็ได้รับคำตอบแบบไม่เป็นทางการว่า ตลาดหุ้นไทยยังไม่ถึงเวลาทะยานอย่างร้อนแรง เพราะมองไปทางไหน ด้านไหน ก็มีปัญหาเยอะแยะไปหมดน่ะซี

ที่น่าสนใจคือ หากเจาะลงไปในรายละเอียดของกำไรต่อหุ้นของทั้งตลาดเมื่อ 4 ปีก่อนอยู่ที่ระดับ 80 บาท ขณะที่ปีนี้คาดการณ์กันว่า น่าจะอยู่ที่ระดับ 80 บาทเช่นกัน ก็หมายความว่า พัฒนาการของตลาดหุ้นไทยกำลังถอยหลัง และเมื่อพิจารณาระดับที่เหมาะสมของดัชนี โดยเทียบเคียงบน PE 17 เท่า (ระดับเดียวกับที่เป็นในเวลานี้) ดัชนีน่าจะอยู่ที่บริเวณ 1,360 จุดนะนายจ๋า!

เพียงแต่สิ่งที่น่ากังวลกว่าในเที่ยวนี้ก็คือ รัฐบาลมัวแต่จ้อไปวัน ๆ ไม่ลงมือทำอะไรเสียที ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจมีปัญหามากขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้ผู้คนไม่กล้าใช้เงิน ขณะที่บริษัทห้างร้านก็ชะลอการลงทุน “โมนิก้า” ถึงรู้สึกกังวลใจเหลือเกินว่า การไหลลงเรื่อย ๆ ของดัชนี จนหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,350 จุดบ่อยครั้ง ก่อนจะตีกลับขึ้นมาอีกครั้ง ไม่น่าจะช่วยให้การยืนปิดไปที่ระดับ 1,351.52 จุด บวกไป 1.69 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.37 หมื่นล้านบาท มั่นคงหรอกนะจ๊ะ

เหมือนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับโบรกฯ ออนไลน์ Zcom ก็มีประเด็นที่ทำให้ผู้คนตกตะลึงอย่างมาก เพราะก่อนที่โบรกฯ จะออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการ ก็มีการทำข่าวสาดโคลนอย่างหนักหน่วง ประหนึ่งตัวเองนั่งอยู่ในที่ประชุมของโบรกฯ ดังกล่าว พร้อมกับเล่าถึงความจำเป็นต้องเรียกคืนมาร์จิ้น เพราะเตรียมจะเซ้งกิจการอีกไม่กี่เดือน แต่สุดท้ายก็ไม่จริงเหมือนที่ประโคมข่าวกันออกมาแบบนี้..กลับลำไม่ทันเลยสิตัวเอง!

ส่วนรายที่ทำให้ผู้คนตะลึง คงต้องมองไปที่หุ้น SCAP เพราะดันไปมีข่าวพัวพันกับการรุกที่ สปก. พร้อมกับมีการชี้เป้าไปยังซีอีโอคนเก่งอีกด้วยแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นหนังเรื่องยาวที่รอวันพิสูจน์ความจริง เพราะมันมีไทม์ไลน์ที่ต้องดูกันไปทีละช็อตว่า “เจตนา” หรือ “ไม่เจตนา” รวมทั้งบุคคลที่ถูกพาดพิงเป็นตัวการสำคัญ เขามีส่วนที่ต้องรับผิดชอบขนาดไหน? ก็เป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไปเจ้าค่ะ

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น EA ที่ไหลลงมาเรื่อย ๆ จนนักเล่นกังวลว่าราคาหุ้นจะลงไปถึงไหน? ซึ่งบางกระแสก็บอกลงเยอะแล้ว แต่บางกระแสก็บอกจะลงอีก เดี๊ยนเลยอยากให้นักเล่นประเมินการยืนปิดที่ระดับ 22.20 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.63 พันล้านบาท ท่ามกลาง PE 13 เท่า และเป็นระดับเดียวกับ 8 ปีก่อน น่าสนใจหรือยัง? และการขายหุ้นของ “เฮียอมร” เป็นเหตุผลทางเทคนิคหรือเปล่า? เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้จ้า

เม้าท์ถึงหุ้นที่ลงต่อเนื่อง และลงไม่หยุด คงมีชื่อของหุ้น BE8 รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน เพราะสถานการณ์ของหุ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ก็ไซด์เวย์ดาวน์ลูกเดียว จนวานนี้ราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 18.70 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของการถอยตั้งหลักเพื่อดูผลงานไตรมาส 2 จะดีขึ้นไหม? และหากทำได้เหมือนที่คาดหวัง ก็จะเห็นราคาหุ้นฟื้นตัวอีกครั้งเจ้าค่ะ

ส่วนรายที่ยังทำผลงานเสมอต้นเสมอปลายอย่าง COCOCO ยังเป็นหุ้นทีเด็ดที่นักเล่นน่าจับตา เพราะภาพใหญ่ของราคาหุ้นยังอยู่ในขาขึ้น ขณะที่ภาพเล็กยังเคลื่อนตัวรูปฟันปลา แถมเที่ยวก่อนเคยเห็นหุ้นขึ้นไปแถว 14 บาท “โมนิก้า” ถึงมองว่า จังหวะนี้เหมาะต่อการเล่นสั้น หลังราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 13.40 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 351 ล้านบาทพะย่ะค่ะ

อีกรายที่เล่นสนุกในช่วงหลายวันที่ผ่านมา “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น ITC หลังมีการโยกราคาหุ้นขึ้นลงตลอด 1 เดือนเต็ม ๆ แถมกรอบการเคลื่อนตัวก็อยู่ในระดับ 20-23 บาท ซึ่งเหมือนเป็นการบอกให้รู้ว่า หุ้นกำลังตั้งฐานเพื่อทะยานขึ้นไปหายอดใหม่ที่สูงกว่าเดิม เดี๊ยนเลยเดาว่า การยืนปิดที่ระดับ 22.60 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 678 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้ลุ้นสนุก ๆ อีกวันไงล่ะคะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button