สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 มิ.ย. 2567
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 มิ.ย. 2567
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (3 มิ.ย. 67) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากตลาดเผชิญเหตุขัดข้องทางเทคนิค ซึ่งส่งผลให้ต้องระงับการซื้อขายหุ้นจำนวนมากในช่วงเวลาสั้นๆ ขณะเดียวกันนักลงทุนประเมินรายงานดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่ชะลอตัวลงในเดือนพ.ค. และรอดูข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินช่วงเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,571.03 จุด ลดลง 115.29 จุด หรือ -0.30%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,283.40 จุด เพิ่มขึ้น 5.89 จุด หรือ +0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,828.67 จุด เพิ่มขึ้น 93.65 จุด หรือ +0.56%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (3 มิ.ย. 67) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยหนุนตลาด เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในสัปดาห์นี้
ดัชนี STOXX600 ปิดตลาดที่ระดับ 519.85 จุด เพิ่มขึ้น 1.68 จุด หรือ +0.32%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,998.02 จุด เพิ่มขึ้น 5.15 จุด หรือ +0.06%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,608.16 จุด เพิ่มขึ้น 110.22 จุด หรือ +0.60% และดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,262.75 จุด ลดลง 12.63 จุด หรือ -0.15%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันจันทร์ (3 มิ.ย. 67) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเภสัชภัณฑ์และกลุ่มพลังงาน แต่ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเชื่อมั่นว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดีนี้
ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,262.75 จุด ลดลง 12.63 จุด หรือ -0.15%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (3 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า มติของที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อาจจะนำไปสู่การเพิ่มอุปทานน้ำมันในวันข้างหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.77 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 74.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.75 ดอลลาร์ หรือ 3.39% ปิดที่ 78.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (3 มิ.ย. 67) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมองว่าดัชนีภาคการผลิตที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและฉุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐชะลอตัวลงด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 23.50 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 2,369.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 34.4 เซนต์ หรือ 1.13% ปิดที่ 30.784 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 19.20 ดอลลาร์ 1.84% ปิดที่ 1,022.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (3 มิ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่อ่อนแอเกินคาด ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.51% แตะที่ระดับ 104.140
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 156.22 เยน จากระดับ 157.19 เยนในวันศุกร์ (31 พ.ค.) นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8956 ฟรังก์ จากระดับ 0.9014 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.4107 โครนา จากระดับ 10.5259 โครนา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3646 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3620 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0897 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0853 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2797 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2744 ดอลลาร์