TNDT เปลี่ยน 360 องศา.!

ถือเป็นหุ้นเก่าแก่อีกตัวของตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ว่าได้ สำหรับ TNDT ซึ่งเข้าตลาด mai มาตั้งแต่ 28 ก.ย. 2550 ด้วยไอพีโอ 3.10 บาท พาร์ 1 บาท


ถือเป็นหุ้นเก่าแก่อีกตัวของตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ว่าได้ สำหรับบริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT ซึ่งเข้าตลาด mai มาตั้งแต่ 28 ก.ย. 2550 ด้วยไอพีโอ 3.10 บาท พาร์ 1 บาท

ด้วยธุรกิจ TNDT เป็นธุรกิจที่เข้าใจยาก…ทำธุรกิจการตรวจสอบแบบไม่ทำลาย นักลงทุนในยุคนั้น (น่าจะรวมถึงยุคนี้ด้วย) งงกันเป็นไก่ตาแตกว่ามันคือธุรกิจอิหยัง..??

อ๋อ…ที่แท้เป็นการให้บริการตรวจสอบอุปกรณ์เพื่อรองรับความปลอดภัยในการใช้งานต่อไปของอุปกรณ์ โดยบุคลากรที่มีคุณสมบัติและความชำนาญตามข้อกำหนดในมาตรฐานสากลและกฎหมาย อาทิเช่น การตรวจสอบท่อส่งน้ำมัน ตรวจสอบท่อบนแท่นนอกชายฝั่ง เป็นต้น

ทว่า มาดูผลประกอบการของ TNDT ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างซบเซา รายได้แทบไม่ Growth เลย บวก/ลบอยู่ที่ 300 ล้านบาทต่อปี…รายได้ไม่โตไม่พอ ยังมาขาดทุนต่อเนื่องอีก อย่างปี 2564 มีตัวเลขขาดทุน 26.90 ล้านบาท ส่วนปี 2565 ขาดทุนเพิ่มเป็น 55.35 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2566 ขาดทุนบักโกรก 366.74 ล้านบาท ล่าสุดไตรมาสแรกปี 2567 ยังมีตัวเลขขาดทุนอยู่ที่ 3.92 ล้านบาท

ว่าไปแล้วธุรกิจของ TNDT เป็นธุรกิจที่จำเป็นนะ แต่ในช่วงที่มีวิกฤตหลาย ๆ บริษัทอาจเซฟต้นทุน เลยทำให้งาน TNDT ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก ไม่เห็นการ Growth…

ต้องบอกว่า นอกจากปัจจัยพื้นฐานไม่ดีแล้ว ราคาหุ้นยังไม่มีแรงผลักดันอีก ทำให้ TNDT เป็นหุ้นที่ไร้เสน่ห์และถูกเมินจากนักลงทุน…   ก็เป็นโจทย์ให้ TNDT ต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง…เพราะถ้าไม่เปลี่ยนคงรอวันเหี่ยวเฉาไปตามกาลเวลา…

แต่ไฮไลต์เป็นการเปลี่ยนแบบ 360 องศา หรือพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ว่าได้..!! ก็ลองคิดดูแล้วกัน จากธุรกิจการตรวจสอบแบบไม่ทำลาย คลุกคลีตีโมงอยู่กับวิศวกร เครื่องจักรกล อุปกรณ์ต่าง ๆ ดันข้ามสายพันธุ์ไปสู่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเฉยเลย…ด้วยการเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนบริษัท ไฮคิก จำกัด (High Kick) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มเสริมอาหาร (Functional Drink) และเครื่องดื่มบำรุงกำลัง (Energy Drink) สัดส่วน 30% คิดเป็นมูลค่า 70 ล้านบาท

แต่ถ้าไปส่องสถานะการเงินของ TNDT ที่ค่อนข้างจำกัดจำเขี่ย ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดติดกระเป๋าแค่ 0.87 ล้านบาท โดยมียอดเงินกู้ยืมระยะสั้น 160.22 ล้านบาท และยอดเงินกู้ระยะยาว 211.09 ล้านบาท ในขณะที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (D/E) สูงปรี๊ดดด 7.35 เท่า ครั้นจะไปขอกู้แบงก์ หรือออกหุ้นกู้ คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก…

เลยเป็นที่มาของมติบอร์ดเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2567 ให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1,857.97 ล้านบาท จากเดิม 489.32 ล้านบาท โดยการออกหุ้นใหม่จำนวน 2,737.29 ล้านหุ้น แบ่งเป็น 260 ล้านหุ้น ขายแบบเจาะจง หรือ PP ให้กับ New Edge Energy Opportunity Sub Fund ซึ่งเป็นกองทุนจากประเทศสิงคโปร์ ที่ราคาหุ้นละ 0.30 บาท คิดเป็นมูลค่า 78 ล้านบาท

ส่วนที่เหลือ 2,477.29 ล้านหุ้น ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) อัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.26 บาท

ถ้าดูวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุน ชัดเจนว่าเงินก้อนแรก 100 ล้านบาท ใช้ลงทุนในธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกษตร และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เพื่อต่อยอดการให้บริการทางด้านปลอดเชื้อและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ด้วย Electron Beam ส่วนก้อนที่สอง 70 ล้านบาท ใช้ซื้อหุ้นบริษัท ไฮคิก จำกัด

ก้อนที่สาม 300 ล้านบาท ใช้ลงทุนธุรกิจตัวแทนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทในเครือ และผลิตภัณฑ์ที่สามารถต่อยอดบริการทางด้านปลอดเชื้อและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ด้วย Electron Beam รวมถึงลงทุนพัฒนาระบบการทางด้านปลอดเชื้อและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ด้วย Electron Beam และก้อนสุดท้าย 252.10 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน หรือนำไปจ่ายหนี้

ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแบบสุดโต่งเพื่อการเติบโตในอนาคตแหละ…ส่วนเปลี่ยนแล้วจะทำให้ TNDT ปังหรือเปล่า..?? อันนี้ไม่รู้ ๆ ๆ ๆ…

ที่รู้…ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย…จริงมั้ย..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button