คงต้อง wait and see

ดูสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยแล้ว มีโอกาสสูงมากที่ดัชนีจะลงมาต่ำกว่า 1,300 จุดอีกครั้ง ปัจจัยกดดัน มาจากทั้งต่างประเทศ


ดูสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยแล้ว

มีโอกาสสูงมากที่ดัชนีจะลงมาต่ำกว่า 1,300 จุดอีกครั้ง

ปัจจัยกดดัน มาจากทั้งต่างประเทศ เช่น ดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐ

ส่วนในประเทศ อะไรที่เป็นปัจจัยลบ จะถูกนำมาเกี่ยวโยงกับหุ้นทันที โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับการเมือง ดูจะถูกให้น้ำหนักมากสุด

การเมืองที่ว่านี้ ยังรวมไปถึงที่มีการ “ลือ” กันเรื่อง “รัฐประหาร” ด้วย

ช่วงต้นปีดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ประมาณ 1,420 จุด

ล่าสุด วันก่อนหน้านี้ (10 มิ.ย.) และวานนี้ (11 มิ.ย.) ลงมาบริเวณ 1,315 จุด +/- และถือว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี

ในเชิงสัญญาณทางเทคนิค หากใครเข้าไปดูเส้นกราฟ จะพบว่า ทิศทางของกราฟ ค่อย ๆ ลงมาทำจุดต่ำสุดของปี (2567) ลงมาเรื่อย ๆ คือ เวลาดัชนีขึ้น ก็จะขึ้นไปไม่ถึงระดับแนวต้าน

ทว่า พอปรับลง จะลงมาต่ำกว่าจุดต่ำสุดครั้งก่อนทุกครั้ง

ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2567 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิแล้วกว่า 89,817 ล้านบาท

ถามว่า ต่างชาติยังเหลือสัดส่วนลงทุนในหุ้นไทยมากน้อยแค่ไหน

คำตอบคือ จริง ๆ แล้วเหลือไม่มาก และไม่น่าจะเกิน 20%

หรือสรุปง่าย ๆ คือ หุ้นที่ยังคงเหลือลงทุนในหุ้นไทย ส่วนใหญ่ จะเป็นเงินลงทุน เช่น เข้ามาร่วมทุน หรือเป็นการถือหุ้นที่ไม่ใช่เป็นของนักลงทุนพวกกองทุนต่าง ๆ

นักลงทุนต่างชาตินอกจากจะขายหุ้นไทยอย่างสนุกสนาน

ยังพบว่า มีการเข้าทำธุรกรรม “ชอร์ตเซล” กันสนุกสนานด้วยเช่นกัน

นัยอาจจะมองว่า หุ้นไทยยังคงมีแนวโน้มขาลง

เลยสบช่อง มองโอกาสการทำกำไรจากชอร์ตเซล

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้น มีคำถามที่ได้ยินจากบุคคลในแวดวงตลาดทุนอยู่ทุกวัน

นั่นคือ หน่วยงานกำกับ และภาครัฐกำลังทำอะไรกันอยู่

ในด้านของหน่วยงานกำกับ อย่างที่เรารับทราบกันว่า กำลังใช้มาตรการเพื่อควบคุม กำกับ การทำธุรกรรม เช่น ชอร์ตเซล โปรแกรมเทรด เพื่อเบรกขาลงของดัชนี

แต่ประเด็นที่เป็นปัญหา คือมาตรการต่าง ๆ ยังไม่สามารถกำหนดใช้ได้ทันที

เหตุผลเพราะต้องให้บรรดาโบรกฯ ปรับปรุงระบบต่าง ๆ ด้วย

ล่าสุด ข่าวว่า มาตรการบางอย่างที่เดิมกำหนดใช้ช่วงปลายไตรมาส 2 หรือภายในเดือนมิถุนายนนี้ นั้น

อาจจะต้องถูกเลื่อนออกไป

ส่วนเรื่องของ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF

ตอนนี้ทาง กรมสรรพากร น่าจะมีการยื่นข้อมูลผลดีผลเสียให้กับ “พิชัย ชุณหวชิร” รมว.คลัง ไปแล้ว

หลังจากที่ทางสภาธุรกิจตลาดทุน ทำเรื่องเกี่ยวกับการออกกองทุน LTF เสนอต่อคลัง

เรื่องของ LTF ทางสรรพากร น่าจะมีความเห็นค้าน หรืออาจจะไม่เห็นด้วยทั้งหมดเกี่ยวกับเงื่อนไข หรือเกณฑ์การลงทุน เช่นจำนวนปีที่ลงทุน และวงเงินในการลดหย่อนภาษี เพราะจะกระทบต่อเป้าการจัดเก็บรายได้

แต่ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่อง LTF ว่ายังคงเดินหน้าต่อ

และกำลังศึกษาถึงความเหมาะสมต่าง ๆ เกี่ยวกับเกณฑ์กองทุนฯ

สรุป อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักพัก

และไม่ใน่ใจเช่นกันว่า จะแล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย.นี้หรือไม่

หุ้นไทย ณ ตอนนี้ จึงยังไม่เห็นปัจจัยบวกที่จะเข้ามาช่วยดันเลย

แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะมีหุ้นบางตัว และบางกลุ่มปรับลง

ในทางกลับกัน ก็มีหุ้นบางตัว และบางกลุ่ม ปรับขึ้นด้วยเช่นกัน สวนทางกับภาพรวม

ขึ้นอยู่กับนักลงทุนจะเข้าถูกตัว ถูกกลุ่มกันหรือเปล่า

แต่หากยังไม่มั่นใจ ดูแล้วหุ้นมันมองยาก วิเคราะห์ไม่ออก

คงต้อง wait and see กันไป

หรือหากคันไม้คันมือ อยากคลิกขวา

อาจจะหันไปเลือกพวกหุ้นปันผลที่มีสถิติจ่ายแบบสม่ำเสมอนั่นแหละ

ธนะชัย ณ นคร

Back to top button