เปิด 20 อันดับหุ้นถูก “Cover-Short” สูงสุด ณ 12 มิ.ย.67

ข้อมูลสิ้นสุด 12 มิ.ย.67 TTB มีปริมาณชอร์ตคงค้างเหลือมากสุด 598 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.61% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ขณะที่ WHA มีมูลค่าการปิดสถานะชอร์ตด้วยการซื้อคืนสูงสุดจำนวน 28 ล้านบาท ส่วน BEM ถูก Short Sales สูงสุดจำนวน 136 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิงการเปิดเผยข้อมูลของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกี่ยวกับหลักทรัพย์ที่ยังคงสถานะการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน (Outstanding Short Positions) ณ วันที่ 12 มิ.ย.67 พบว่ามีหลักทรัพย์ที่ยังคงสถานะการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน จำนวนทั้งหมด 437 หลักทรัพย์ โดยหุ้นที่คงสถานะขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืนสูงสุด 5 อันดับแรก (รวมบัญชี NVDR) ประกอบด้วย

1.ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB จำนวน 598,016,300 หุ้น หรือคิดเป็น 0.61% ของหุ้นที่ชำระแล้ว

2.บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC จำนวน 576,622,993 หุ้น หรือคิดเป็น 1.80% ของหุ้นที่ชำระแล้ว

3.บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC จำนวน 289,532,271 หุ้น หรือคิดเป็น 1.42% ของหุ้นที่ชำระแล้ว

4.บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM จำนวน 271,727,347 หุ้น หรือคิดเป็น 1.78% ของหุ้นที่ชำระแล้ว

5.บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU จำนวน 253,570,240 หุ้น หรือคิดเป็น 2.53% ของหุ้นที่ชำระแล้ว

ทั้งนี้ จาก 20 อันดับในตารางดังกล่าว พบ 4 หุ้นที่ถูก Cover Short สูงเกิน 1 ล้านหุ้น ได้แก่

1.WHA จำนวน 5,375,300 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 5.30 บาท คิดเป็นมูลค่า 28,489,090 บาท

2.BTS จำนวน 4,041,600 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 4.70 บาท คิดเป็นมูลค่า 18,995,520 บาท

3.HMPRO จำนวน 3,281,900 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 9.10 บาท คิดเป็นมูลค่า 29,865,290 บาท

4.KTB จำนวน 1,049,900 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 17.40 บาท คิดเป็นมูลค่า 18,268,260 บาท

ขณะเดียวกันพบ 5 อันดับถูก Short Sales เพิ่มขึ้นสูงเกิน 10 ล้านหุ้น ได้แก่

1.BEM จำนวน 16,796,400 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 8.10 บาท คิดเป็นมูลค่า 136,050,840 บาท

2.AWC จำนวน 16,602,600 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 3.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 58,109,100 บาท

3.BANPU จำนวน 13,476,200 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 5.05 บาท คิดเป็นมูลค่า 68,054,810 บาท

4.IVL จำนวน 11,449,400 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 20.20 บาท คิดเป็นมูลค่า 231,277,880 บาท

5.IRPC จำนวน 10,765,500 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 1.72 บาท คิดเป็นมูลค่า 18,516,660 บาท

Back to top button