รัฐบาลคาดปี 67 ไทยมีเม็ดเงินลงทุนเกิน 8 แสนล้าน หวังเป็น “ศูนย์กลางทางการเงิน”

นายกฯ มุ่งผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงิน และการลงทุนจากต่างชาติ ยินดี BOI – HSBC ลงนาม MOU สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อไทย คาดการณ์มูลค่าเงินลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 8 แสนล้านบาท ภายในปี 67


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 มิ.ย. 67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำถึงการผลักดันการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจในไทย ซึ่งผลตอบรับจากการเยือนและหารือร่วมกับภาคธุรกิจต่างชาติมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ แบงกิ้งคอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (HSBC) สาขาประเทศไทย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (BOI – HSBC Thailand MOU Signing Ceremony) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนต่างชาติให้เข้าถึงการลงทุนและการขยายธุรกิจในไทย พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่ศูนย์กลางการลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการลงทุนในไทย โดยธนาคาร HSBC จะเป็นสื่อกลางให้แก่ไทย ผ่านการใช้เครือข่ายลูกค้าธุรกิจระดับโลกที่มีใน 62 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ ประกอบกับความเชี่ยวชาญในการสนับสนุนองค์กรข้ามชาติในการขยายธุรกิจระหว่างประเทศ โดยจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการลงทุนในประเทศไทย พร้อมใช้แพลตฟอร์มด้านการเงินดิจิทัลของธนาคาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักลงทุนต่างชาติที่สนใจลงทุนและขยายธุรกิจในไทย โดยจะมีการจัดกิจกรรม Roadshow ในตลาดที่สำคัญทางเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น จีน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง อินเดีย ซาอุดีอาระเบีย อาเซียน ยุโรป และสหราชอาณาจักร ซึ่งทาง BOI จะมุ่งเน้น 5 อุตสาหกรรมตามยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) ดิจิทัล (Digital) อุตสาหกรรมชีวภาพ (Bio Industry) และพลังงานสะอาด (Clean Energy)

นอกจากนี้ ผลการวิจัยของ HSBC Global Connections  ยังระบุว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญที่ธุรกิจระหว่างประเทศต้องการเข้ามาลงทุนและมีแผนที่จะขยายธุรกิจภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบันมี 37% ของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในไทย และมีมุมมองเชิงบวกต่อประเทศไทยว่า เป็นประเทศที่น่าลงทุนอย่างมาก เนื่องจากเป็นฐานของการผลิตที่สำคัญในภูมิภาค และเป็นส่วนสำคัญของ Supply chain ทั่วโลก สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของ BOI ซึ่งพบว่า กระแสการลงทุนจากต่างชาติจะเข้ามาไทยอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาสแรก ปี 2567 (เดือนมกราคม – มีนาคม 2567) มียอดขอรับส่งเสริมการลงทุน จำนวน 724 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวม 228,207 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 31 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 พร้อมคาดการณ์ว่า ภายในปี 2567 นี้ จะมีมูลค่าเงินลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 8 แสนล้านบาท

“ความร่วมมือระหว่าง BOI และ HSBC ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการทำงานเชิงรุกอย่างต่อเนื่องของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล เป็นผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมซึ่งได้เพิ่มโอกาสให้เกิดการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ สามารถดึงสถาบันการเงินระดับโลกเข้ามาร่วมมือกับไทย เพื่อต่อยอดเพิ่มโอกาสผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงิน (Financial Hub) ตามนโยบาย Ignite Thailand ขับเคลื่อนระบบการเงินที่แข็งแกร่ง ดึงสถาบันการเงินระดับโลกเข้ามาลงทุน โดยรัฐบาลพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน และยกระดับเศรษฐกิจไทยให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น” นายชัย กล่าว

Back to top button