KEX เปลี่ยนชีวิตใหม่.!

หลังจากขนส่งพัสดุค่ายสีส้ม KEX มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็ตามด้วยการเปลี่ยนชื่อแบรนด์ จาก Kerry Express เป็น KEX...


หลังจากขนส่งพัสดุค่ายสีส้ม บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ จากเดิมมี Kerry Logistics Network Limited (KLN Group) ถือหุ้นใหญ่ โดยถือทางอ้อมผ่านบริษัท เคแอลเอ็น โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (KLNTH) มาเป็น S.F. Holdings Co.,Ltd. (SF) ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่จากจีน โดยถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (SFTH)…

ก็ตามด้วยการเปลี่ยนชื่อแบรนด์ จาก Kerry Express เป็น KEX…พร้อมเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามบริษัทใหม่เป็นบริษัท เคอีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส  (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

รวมทั้งเปลี่ยนทุนจดทะเบียน…ด้วยการเพิ่มทุนเป็น 2,299.25 ล้านบาท จากเดิม 890 ล้านบาท โดยการออกหุ้นใหม่จำนวน 2,818.50 ล้านหุ้น แบ่งเป็น 2,812.50 ล้านหุ้น ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) อัตราส่วน 0.6196 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 3.20 บาท คิดเป็นมูลค่า 9,000 ล้านบาท

โดยกำหนดระยะเวลาจองซื้อและชำระเงินในวันที่ 21-27 ส.ค. 2567

ส่วนหุ้นที่เหลือ 6 ล้านหุ้น รองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น KEX ภายใต้โครงการ ESOP Warrants

เท่ากับว่า 4 เปลี่ยนของ KEX ก็เหมือนเปลี่ยนชีวิตใหม่ไปโดยปริยาย..!?

สิ่งที่น่าสนใจ ถ้าการเพิ่มทุนครั้งนี้สำเร็จตามเป้าหมาย ก็จะทำให้ KEX หายใจหายคอได้สะดวกโยธินขึ้น เนื่องจากจะนำเงินก้อนแรกจำนวน 3,240 ล้านบาท ไปปลดหนี้ ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 มีเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาวรวมกัน 3,237.91 ล้านบาท จะทำให้ KEX ตัวเบาขึ้น…

ส่วนที่เหลือจำนวน 5,760 ล้านบาท จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

โอเค…เมื่อมีเงินไปจ่ายหนี้แล้ว มีเงินทุนมาต่อลมหายใจแล้ว…แต่คำถามที่ตามมา แล้วธุรกิจ KEX จะไปยังไงต่อ..?? อันนี้ก็น่าคิด

อย่าลืมว่า แม้ตลาดขนส่งพัสดุเป็นเค้กก้อนใหญ่ก็จริง…แต่ตลาดนี้เป็นทะเลแดงเดือดที่แข่งขันกันสูง มีคู่แข่งมากหน้าหลายตาทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ไม่ว่าจะเป็นไปรษณีย์ไทย, แฟลช เอ็กซ์เพรส, ลาซาด้า เอ็กซ์เพรส, เอสซีจี เอ็กซ์เพรส, ดีแอสแอล อีคอมเมิร์ซ, นิ่มเอ็กซ์เพรส, นินจาแวน, ลาลามูฟ, เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส และซีเจ โลจิสติกส์ เป็นต้น

ในขณะที่เทรนด์ค้าขายออนไลน์ หรือธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของไทย ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ธุรกิจขนส่งพัสดุโตแรง น่าจะผ่านจุดพีกในช่วงวิกฤตโควิดไปแล้ว…

ทุกวันนี้นอกจากแข่งขันกันเรื่องความรวดเร็วแล้ว ยังหันมาห้ำหั่นด้านราคา บางเจ้าถึงขั้นกลืนเลือดตัวเองก็ยอม เพื่อรักษาและช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดให้ได้มากที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจที่ผลประกอบการของหลาย ๆ เจ้ามีตัวเลขขาดทุนหนักหน่วง..!!

แหม๊…เห็นอย่างนี้อดเป็นห่วง KEX ไม่ได้นะเนี่ย..??

ก็น่าติดตามว่า จากนี้ไป KEX จะงัดกลยุทธ์ใดมาสู้ศึกในสมรภูมินี้..??

ที่สำคัญ จะพลิกฟื้นธุรกิจยังไง..?? อย่างน้อย ๆ สะกดกำไรให้เห็นซะที…ก็น่าจะดีนะ

อ้อ…ล่าสุด SF Express ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ 62.7% ออกมาประกาศกร้าวแล้วว่า พร้อมใส่เงินเพิ่มทุนนะ.!! ส่วนผู้ถือหุ้นคนอื่น รวมถึงนักลงทุนรายย่อย จะใส่เงินหรือเปล่า..??

คงต้องวัดใจกันอีกที…

…อิ อิ อิ…

Back to top button