LEO-FPI ร่วมจัดอบรม “การพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน” สร้างคุณค่าธุรกิจอนาคต

LEO - FPI เตรียมพร้อม ESG จัดงานอบรม “การพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน” เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้บริหารและพนักงานเข้าใจหลักการการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน พร้อมกับการวางแผนเพื่อนำไปปฏิบัติจริงและสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับธุรกิจของบริษัทฯ


นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้  LEO ได้จัดงานอบรม หลักสูตร “การพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน” เพื่อให้ผู้บริหาร ผู้จัดการและพนักงานมีความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการของ ESG เพื่อสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับธุรกิจของบริษัทฯ และผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซต์

สำหรับงานสัมมนาครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ และ ดร. ศรุดา  ศิริภัทรปรีชา กรรมการบริหารและผู้จัดการฝ่ายพัฒนาความยั่งยืน บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI ซึ่งมีหน่วยงานพิเศษสำหรับธุรกิจในการเป็นที่ปรึกษาและจัดอบรมเรื่องการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืนให้กับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ต้องการดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมมาภิบาล (ESG)  มาร่วมถ่ายทอดความรู้ โดยมี นายเสนีย์ แดงวัง ประธานคณะกรรมการบริษัท ประธานคณะกรรมการบรรษัทภิบาล และความยั่งยืนของกิจการ พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงานบริษัทฯ เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้

LEO มุ่งมั่นให้ความสำคัญกับกิจกรรมและบริการที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน (Sustainability) และการดำเนินงานที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green logistics) เพื่อสร้างความได้เปรียบในเรื่องการแข่งขันเรื่อง ESG ให้กับลูกค้าได้ อย่างตรงจุด เราจึงต้องพัฒนาบุคลากรของเราให้มีความรู้ที่ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อที่จะเป็น Strategic Partner ที่ช่วยสนับสนุนงานโลจิสติกส์ให้ลูกค้าของเราอย่างมีประสิทธิภาพ” นายเกตติวิทย์ กล่าว

นอกจากนี้ LEO ยังเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรของคนไทยรายแรกที่ได้ประกาศแผนการพัฒนาธุรกิจที่จะให้บริการในลักษณะของ Green Logistics ที่มีเป้าหมายชัดเจนที่จะทำให้ธุรกิจ Green Logistics สามารถแปรเปลี่ยนเป็น Carbon Credit ให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการกับทาง LEO ทำให้ลูกค้าของบริษัทฯ มีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันด้านการค้า และได้รับการยอมรับในการดำเนินธุรกิจในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในประเทศในทวีปยุโรป หรือประเทศญี่ปุ่นที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG และการลดก๊าซเรือนกระจก (GHG) เป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ LEO ไม่หยุดที่จะพัฒนาและต่อยอดการให้บริการขนส่งสินค้าแบบครบวงจร และส่งมอบบริการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพให้แก่ลูกค้า ด้วยบริการที่รวดเร็ว ฉับไว และใส่ใจในทุกความต้องการของลูกค้า ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์อย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิด Smart & Sustainable เพื่อยกระดับบริการที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้าของ LEO Global Logistics อย่างแท้จริง

Back to top button