ปลาหมึกยักษ์แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ครั้งหนึ่งนามาแล้ว ธีโอดอร์ ไดรเซอร์ นักเขียนนวนิยาญอเมริกัน เขียนเปิดโปงการขยายตัวของทุนใหญ่ในสหรัฐฯว่า มียุทธการ “ปลาหมึกยักษ์” เอาไว้ในหนังสือ Octopussy


ครั้งหนึ่งนามาแล้ว ธีโอดอร์ ไดรเซอร์ นักเขียนนวนิยาญอเมริกัน เขียนเปิดโปงการขยายตัวของทุนใหญ่ในสหรัฐฯว่า มียุทธการ “ปลาหมึกยักษ์” เอาไว้ในหนังสือ Octopussy

ในแวดวงนักบริหารธุรกิจ โมเดลดังกล่าว ปัจจุบันเรียกกันว่า การขยายตัวในแนวระนาบ หรือ horizontal integration นั่นเอง…แต่โมเดลดังกล่าวมีความเสี่ยงเพราะว่า หากทำโดยไม่ถนัดจริง ก็จะเกิดการสูญเปล่า..เพราะมันเข้าข่ายลงทุนแบบมั่วซั่ว

ปรากฏการณ์เช่นว่า กำลังจะเกิดขึ้นกับ บริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ABC บริษัทโฮลดิ้ง ที่มีแต่เงินสด และกำลังหาธุรกิจใหม่ที่จะ “ปิ๊งปั๊ง” เพื่อบรรลุสู่อนาคตอันสดใส…เพื่อให้พ้นคำปรามาสว่าเป็นแค่ Cashy company..มีเงินแต่ใช้ไม่เป็น และใช้แล้วไม่งอกเงย

ภาวะของการเร่งสยายธุรกิจด้วยการเติบโตทางลัดเข้าซื้อกิจการ ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะรากเหง้าของบริษัทนี้ ก็มาจากการเข้า “ประตูหลัง” ผ่านการซื้อกิจการที่ไปต่อไม่ได้แล้วของเครือสหพัฒน์อย่าง บริษัท บางกอกไนล่อน  จำกัด (มหาชน) หรือ BNC ที่ถูก 2 บริษัทร่วมทุนใหญ่อย่าง  บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง  จำกัด (มหาชน) หรือ SPI และบางกอกโตเกียว ซ็อคส์ ของญี่ปุ่น  ขายทิ้งออกมา ในปลายปี 2556

ปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัวในเชียงใหม่ กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อกิจการเป็น ABC ในปัจจุบัน พร้อมกับวางแผนสร้างธุรกิจใหม่ในรูปโฮลดิ้ง เริ่มต้นด้วยโครงการสวยหรูในนามบริษัทย่อย  เอบีซี อินโนเวชั่น จำกัด เพื่อให้บริการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ  ทำธุรกิจธุรกิจบริการ  อี-เพย์เม้นท์ (E-Payment) โดยเป็นการโอนคะแนนสะสมจากบัตรเครดิตต่างๆ ทั้งของตนเองและคนใกล้ชิดมาไว้ในบัตรเอบีซี (ABC Card) เพื่อชำระเป็นค่าบริการต่างๆ ที่ครอบคลุมกว่า 100 รายการ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น…

ความหวังที่จะใช้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นใบเบิกทางเพื่อเทิร์นอะราวด์ธุรกิจ ไม่ง่าย เพราะผ่านมา 2 ปี ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน..พูดย่อมง่ายกว่าทำเสมอๆๆๆ

ผลประกอบการที่ยังมีตัวเลขติดลบทุกปีของ ABC จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และนี่ยังไม่ต้องพูดถึงราคาหุ้น ที่ราคาแน่นิ่งที่ระดับต่ำกว่า 0.50 บาทมานานหลายเดือน

 เพียงแต่การที่ยังไม่ได้ก่อหนี้อะไรมากมาย ทำให้ฐานะการเงินของ ABC ยังคงแข็งแกร่ง มีส่วนผู้ถือหุ้นเหลือให้ลงทุน…หาโอกาสในอนาคตได้อีก 720 ล้านบาท เทียบกับหนี้ที่มีล่าสุดแค่ 7.45 บาท ก็ถือว่าไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย เพียงแต่ยังไม่ทำกำไร

ถ้าตอบโจทย์ทำกำไรได้ ก็…จบด้วยดี

 ปี 2559 ถือเป็นฤกษ์ดี เพราะเราได้เห็นการเริ่มรุกทางธุรกิจที่ว่ากันตามจริงแล้ว น่าจะวางแผนหรือเจรจามาตั้งแต่ปลายปีก่อน  แต่มาแถลงข่าวรวบยอดในปีนี้แทน ทำการไล่ซื้อกิจการแบบ “ปะ…ฉะ…ดะ

ไล่เรียงกันมาตั้งแต่

– เพิ่มทุน 64.53 ล้านบาท เพื่อรองรับการซื้อกิจการ “ออคิด วิลล์” เป็นคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยหรูย่านสุขุมวิท คาดเปิดโครงการ ABC Residence Sukhumvit 39 มูลค่า 2,500 ล้านบาท ในไตรมาส 1/59 เชื่อทำกำไรได้ทันที

– เปิดตัวโครงการ ABC Residence ในซอยสุขุมวิท 39 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ มูลค่า 2,500 ล้านบาท

– ซื้อกิจการโรงเรียนนานาชาติลานนาเชียงใหม่ ที่ปัจจุบันมีนักเรียนประมาณ 400 คน จะขยายเป็น 1,000 คน ในปีการศึกษา 2560 โดยคาดว่าโครงการทั้งหมดจะสามารถรับรู้รายได้ภายในปี 2559

– ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2559 ในการเช่าอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น อยู่บนถนนรามคำแหง โดยมีพื้นที่รวม 35,000 ตารางเมตร พร้อมที่จอดรถ 600 คัน รวมถึงมีสัญญาเช่านาน 30 ปี มูลค่า 60 ล้านบาท และมีค่าเช่ารายเดือน เดือนละ 3,000 ล้านบาท โดยจะใช้เวลาปรับปรุงพื้นที่ 6 เดือน ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการดังกล่าว เมื่อได้ผลการศึกษาแล้วจะนำเสนอขออนุมัติต่อคณะกรรมการบริษัทและที่ประชุมผู้ถือหุ้น

ทั้ง 4 ธุรกิจนี้ นับแต่ ธุรกิจอีบิซิเนส, อสังหาริมทรัพย์, การศึกษา และโรงพยาบาลสัตว์ อย่างไหนจะเด่นเป็นสตาร์ อย่างไหนจะเป็นวัวที่ให้น้ำนมทองคำ …ยังไม่รู้ เพราะผู้บริหารที่เป็นโฆษกของบริษัทอย่าง นายจิรภัทร วีรชยทองคำ รองกรรมการผู้จัดการบอกว่า…ดีทุกตัว

ดีแค่ไหน ไว้พิสูจน์กันว่าอย่างไหนจริง อย่างไหนปลอม…ของพรรค์นี้ปิดกันไม่มิด

ยุทธการปลาหมึกยักษ์อย่างนี้ มันมีทั้งโอกาสและความเสี่ยงอยู่ด้วยเสมอ…เป็นมากกว่าแค่ราคาหุ้น เพราะมีเดิมพันคืออนาคต…เข้าใจตรงกันนะ

Back to top button