SIRI รับสินเชื่อ “ไทยพาณิชย์” วงเงิน 1.5 หมื่นล้าน ลุยโครงการ “กรุงเทพกรีฑา-ชิดลม”

“แสนสิริ" ได้รับวงเงินสินเชื่อ “ไทยพาณิชย์” วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท เตรียมพัฒนาโครงการกรุงเทพกรีฑา โครงการบางนา กม.10 และ โครงการชิดลม


นายอุทัย  อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ผู้นำกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า แสนสิริและไทยพาณิชย์ ตอกย้ำความเชื่อมั่นและพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของไทย ได้ให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจ ด้วยการสนับสนุนทางการเงินสำหรับโครงการกรุงเทพกรีฑา โครงการบางนา กม.10 และ โครงการชิดลม มูลค่ารวม 15,200 ล้านบาท ซึ่งแต่ละโครงการมีความโดดเด่น ทั้งในด้าน Design, Service, Quality และ Sustainability เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

โดยแสนสิริยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่ง ในปีแห่งการเติบโตที่สำคัญของแสนสิริ ก้าวต่ออย่างมั่นคงสู่ปีที่ 40 ด้วยแนวทาง “RESILIENT GROWTH” โดยนำศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ นวัตกรรม มาต่อยอดธุรกิจและขับเคลื่อนการทำงานในองค์รวม เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการให้กับผู้บริโภคอย่างตรงใจและโดดเด่นเหนือคู่แข่ง ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสนสิริเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนในอนาคต สำหรับปีนี้ แสนสิริวางแผนธุรกิจเปิดตัวโครงการใหม่ 46 โครงการ มูลค่า 61,000 ล้านบาท (สูงสุดในอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย) พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 52,000 ล้านบาทและเป้าหมายยอดโอนที่ 43,000 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์สำคัญขับเคลื่อนองค์กรควบคู่กับความพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ประกอบด้วย การรักษาระดับผลประกอบการให้เติบโตอย่างสม่ำเสมอ ให้ความสำคัญกับวินัยทางการเงิน ตลอดจนรักษาสภาพคล่องที่เหมาะสมรองรับได้กับทุกสถานการณ์

นายกฤษณ์  จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่แสนสิริจำนวน 15,200 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใน 3 พื้นที่ศักยภาพ ได้แก่ โครงการกรุงเทพกรีฑา โครงการบางนา กม.10 และ โครงการชิดลม ซึ่งเป็นอีกครั้งที่แสนสิริสร้างความตื่นเต้นให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยของประเทศไทย ด้วยการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงที่มุ่งเน้นการมอบนวัตกรรมและความยั่งยืน ธนาคารมีความเชื่อมั่นว่าการลงทุนครั้งนี้จะนำมาซึ่งสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน ทั้งยังเป็นการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะยาว ทั้งนี้ ภาคอสังหาริมทรัพย์มีบทบาทอย่างสูงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์สนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ทั้งสินเชื่อเพื่อผู้พัฒนาโครงการ และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้บริโภค

นอกจากนี้ การสนับสนุนในครั้งนี้ยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch ของธนาคารไทยพาณิชย์ในการส่งเสริมการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพ ทั้งยังให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมเข้ามาส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Back to top button