“ชนินทร์”หนีวุ่น! กลุ่มผู้เสียหาย STARK ไล่ทวงเงินที่สนง.อัยการ

“ชนินทร์ เย็นสุดใจ” เจอกลุ่มผู้เสียหายจากหุ้น STARK ดักพบ ตะโกนเรียกร้องเงินคืน หลังดีเอสไอส่งตัวมาสำนักงานอัยการสูงสุด ก่อนจะส่งฟ้องและคัดค้านการประกันตัว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.45 น. ของวันนี้ (24 มิ.ย. 67) เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้นำตัวนายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) (STARK) ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีทุจริต STARK  มาส่งให้กับพนักงานอัยการแผนกคดีพิเศษ 1 เพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อศาลอาญา หลังมีรายงานว่า นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ได้สั่งการให้อัยการผู้รับผิดชอบสำนวนเตรียมร่างฟ้องไว้แล้ว

โดยทันทีที่รถของเจ้าหน้าที่ DSI มาถึงปรากฏว่าไม่สามารถนำตัวนายชนินทร์ ลงจากรถได้ เนื่องมีผู้เสียหายที่เป็นผู้ถือหุ้นกู้จำนวนมากมารอเจอนายชนินทร์ บริเวณหน้าทางเข้าสำนักงานอัยการสูงสุด จนต้องวนรถออกไปจากจุดดังกล่าว ทำให้ผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุได้วิ่งตามรถของเจ้าหน้าที่ด้วยความทะลุกทุเล  เพื่อทวงเงินที่ได้ลงทุนในหุ้นกู้ของ STARK ซึ่งนายชนินทร์เป็นประธานบอร์ดบริหาร STARK ในขณะนั้น

ทำให้เจ้าหน้าที่ DSI เปลี่ยนแผนด้วยการนำตัวนายชนินทร์ไปพบกับพนักงานอัยการเจ้าของสำนวนที่ศาลอาญาและดำเนินการตามกระบวนการตรวจสำนวนการสั่งฟ้อง

นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความนายชนินทร์ เย็นสุดใจ  ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีทุจริตบริษัท STARK เปิดเผยว่า หลังจากที่ศาลมีการรับฟ้องนายชนินทร์แล้ว จากนี้ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของศาล เนื่องจากนายชนินทร์มีความประสงค์ไม่ยื่นประกันตัว และขอต่อสู้คดีตามกฎหมาย เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากความกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยในชีวิต และต้องการต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมของศาล ส่วนการเตรียมตัวสู้คดีนั้นก็ไม่ต้องเตรียมอะไรมากเพราะอัยการได้มีการฟ้องจำเลยบางส่วนไปแล้วก่อนหน้านี้ จึงใช้เอกสารที่อัยการฟ้องไว้ แต่อาจจะมีเอกสารเพิ่มเติมเข้าไปเช่น คำให้การ บัญชีต่างๆ เข้าไปประกอบสำนวนคดี และจะเอาสำนวนคดีกรณีสั่งไม่ฟ้องมาสู้คดีด้วยแต่ขณะนี้ยังไม่เห็นคำสั่งนั้นจึงพูดไม่ได้ว่าจะมีประโยชน์หรือไม่

ส่วนกรณีที่ทางผู้เสียหายตั้งข้อสังเกตุการสั่งไม่ฟ้อง นายชินวัฒน์ อัศวโภคี นั้นไม่ขอก้าวล่วง คนที่ไม่โดนฟ้องก็ถือว่าเป็นบุญ ส่วนคนที่โดนฟ้องก็สู้ไปตามกระบวนยุติธรรม ซึ่งมองว่าอัยการก็ให้ความเป็นธรรม เพราะเห็นว่าไม่ได้กระทำความผิดจึงสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งนายชนินทร์ ไม่มีโอกาสได้ชี้แจงเนื่องจากอยู่ต่างประเทศ และที่ต้องไปต่างประเทศเพราะมีคนจะอาฆาตมาดร้าย ทำให้เกิดความกังวลในเรื่องความปลอดภัย แต่หากได้ชี้แจงและมีเอกสารยื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)  และอัยการ ก็คงจะเป็นทิศทางที่ดี โดยนายชนินทร์และผู้ต้องสงสัยอีกรายถือเป็นคีย์แมนคนสำคัญในการไขคดีนี้ หากจะเป็นแพะรับบาปหรือไม่ ไม่ใช่ในลักษณะนั้น แต่ทุกปัญหาในคดีนี้ ดูเหมือนถูกโยนมาที่นายชนินทร์คนเดียว ส่วนช่องทางการต่อสู้ไม่ขอให้ข้อมูลเพราะเกี่ยวพันกับจำเลยรายอื่นๆ

ขณะเดียวกันประเด็นที่มีจำเลยหลายคนซักทอดโยนความผิดให้นายชนินทร์ คนเดียวนั้น ตอนนี้ยังไม่เห็นสำนวนทั้งหมด แต่ทราบข่าวจากนักข่าวว่า จำเลยทุกคนโยนความผิดให้นายชนินทร์ ซึ่งมองว่าอยู่ต่างประเทศ ไม่มีโอกาสชี้แจง แต่มีข้อมูลหลักฐาน เหตุผลที่ถูกกล่าวอ้างในทุกประเด็น หลังจากนี้ตามขั้นตอนของศาล คดีของนายชนินทร์ เนื่องจากถูกจับทีหลัง คาดว่าศาลคงนำกรณีนี้ไปรวมกับสำนวนเก่าที่จำเลยในคดีนี้ถูกฟ้องไปแล้ว คาดว่าศาลจะเริ่มพิจารณา 14 ม.ค. 2568 หรือวันสุดท้าย 18 ม.ค.2568 โดนระหว่างนี้นายชนินทร์ก็จะถูกกักขังในเรือนจำ

อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการอ้างอิงจากคดีที่มีการยกฟ้องผู้ต้องสงสัยบางรายนายเรืองศักดิ์ ยอมรับว่าไม่มีคดีอาญาคดีไหนที่จะหลุดคดีได้ 100% สู้ไปตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ที่พอจะสู้ได้ ส่วนการยกฟ้องหรือหลุดคดีอำนาจอยู่ที่ศาล ซึ่งได้ดูสำนวนก็หนักใจ เพราะคดีอาญาเป็นคดีที่มีโทษหนักทุกคดี และไม่ขอตอบช่องทางการต่อสู้เพราะเกรงว่า หากให้ข้อมูลมากกว่านี้ จะกระทบกับผู้ต้องหารายอื่น สำหรับการถูกจับกุมในครั้งนี้นายชนินทร์ ต้องการกลับมาต่อสู้คดี และหาทางกลับมาหลายครั้งแล้ว โดยในครั้งนี้นายชนินทร์ได้มีการติดต่อกับทางผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ดูไบเพื่อกลับมาสู้คดี แต่ยืนยันว่าไม่ได้โดยจับกุม เป็นการสมัครใจกลับมาต่อสู้คดี.

Back to top button