หุ้นรับ TESG แบบใหม่

วานนี้ พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง นำทีมผู้บริหารระดับสูงสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ แถลงข่าวเรื่อง “การขับเคลื่อนการลงทุน”


วานนี้ พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง นำทีมผู้บริหารระดับสูงสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ แถลงข่าวเรื่อง “การขับเคลื่อนการลงทุน”

ประเด็นที่มีการแจงกันออกมา

ไม่ได้อยู่นอกเหนือจากข่าวที่สื่อมวลชนได้รับมาก่อนหน้านี้

นั่นคือ การปรับเงื่อนไขของกองทุน TESG

เพียงแต่ว่าเนื้อหาบางส่วนจะแตกต่างจากข่าวที่ออกไปบ้าง

เช่น ช่วงระยะเวลาลงทุนจากเดิม 8 ปี ลงมาเหลือ 5 ปี

ส่วนเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มขึ้นจาก 1 แสนบาท เป็น 3 แสนบาท

ประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติมอีก คือ สามารถที่จะซื้อได้ถึง 30% ของรายได้

ซึ่งแตกต่างจากของ LTF ที่ให้ซื้อได้เพียง 15% ของรายได้ ซึ่งจะทำให้มีแรงซื้อในกองทุนเข้ามามากขึ้น แม้ว่าจะวงเงินลดหย่อนจะได้ไม่เท่ากับ LTF ที่ระดับ ไม่เกิน 5 แสนบาทต่อปี

เฉพาะการเพิ่มเป็น 30% ของรายได้นี้

คาดกันว่า จะทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในกองทุน TESG รูปแบบใหม่ต่อปีถึง 7.2 หมื่นล้านบาท

ส่วนเรื่องของกลุ่มหุ้นนั้น

ยังมีการขยายหรือผ่อนปรนว่า ไม่จำกัดเฉพาะหุ้นที่ได้รับ ESG เท่านั้น

แต่ยังเป็นหุ้นอื่นๆ ที่เข้าหลักเรื่องของการมีธรรมาภิบาลที่ดี และเกณฑ์อื่น ๆ อีก

ทำให้จำนวนหุ้นที่จะลงทุนได้จากเดิมไม่เกิน 128 หุ้น ปรับขึ้นมาอาจมากกว่า 200 หุ้น และน่าจะครอบคลุมหุ้นที่อยู่ในกลุ่ม SET50/100

อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ ภาครัฐจะออกกองทุนคล้ายกับ “กองทุนวายุภักษ์” 

นัยสำคัญเพื่อนำเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น

แน่นอนว่า กลุ่มหุ้นที่เป็นเป้าหมายคือพวกมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ ทั้งในกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก ธนาคาร สื่อสาร

และอาจจะรวมถึงในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

ส่วนกลุ่มหุ้นขนาดกลางและเล็ก น่าจะเป็นหุ้นที่มีผลประกอบการมาต่อเนื่องและแนวโน้มเติบโตในระดับแข็งแกร่งได้ต่อนั่นแหละ

มีการประเมินจากนักวิเคราะห์ในเบื้องต้นว่า

มาตรการต่าง ๆ ที่ออกมา

ทั้งเรื่อง TESG รูปแบบใหม่ กองทุนภาครัฐที่คล้ายกับวายุภักษ์ และมาตรการกำกับต่าง ๆ ทั้งชอร์ตและโปรแกรมเทรด (โรบอทเทรด)

น่าจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน และส่งผลมายังดัชนีหุ้นไทยได้

ส่วนกลุ่มหุ้นที่จะเป็นเป้าหมายของ TESG เช่น

SCC จากต้นปีราคาปรับลง -27%, น้ำหนักใน SETESG 2.8%, จำนวนหุ้นที่ถูก Short และยังไม่ปิดสถานะต่อทุนชำระแล้ว 0.86%

IVL จากต้นปีราคาลงมา 25.8% น้ำหนักใน SETESG 1.05%, จำนวนหุ้นที่ถูก Short และยังไม่ปิดสถานะต่อทุนชำระแล้ว 2.16%

CRC จากต้นปีราคาปรับลง 28%, น้ำหนักใน SETESG 1.6%, จำนวนหุ้นที่ถูก Short และยังไม่ปิดสถานะต่อทุนชำระแล้ว 1.1%

BTS จากต้นปีราคาปรับลง 36.8%, น้ำหนักใน SETESG 0.57%, จำนวนหุ้นที่ถูก Short และยังไม่ปิดสถานะต่อทุนชำระแล้ว 1.43%

PTTGC จากต้นปีราคาปรับลง 20%, น้ำหนักใน SETESG 1.29%, จำนวนหุ้นที่ถูก Short และยังไม่ปิดสถานะต่อทุนชำระแล้ว 1.06%

GPSC จากต้นปีราคาปรับลง 13.9%, น้ำหนักใน SETESG 1.1%, จำนวนหุ้นที่ถูก Short และยังไม่ปิดสถานะต่อทุนชำระแล้ว 1.2%

CPALL จากต้นปีราคาปรับลง 2.7%, น้ำหนักใน SETESG 4.5%, จำนวนหุ้นที่ถูก Short และยังไม่ปิดสถานะต่อทุนชำระแล้ว 0.9%

BGRIM จากต้นปีราคาปรับลง 21.1%, น้ำหนักใน SETESG 0.53%, จำนวนหุ้นที่ถูก Short และยังไม่ปิดสถานะต่อทุนชำระแล้ว 0.98%

SCGP จากต้นปีราคาปรับลง 6.9%, น้ำหนักใน SETESG 1.3%, จำนวนหุ้นที่ถูก Short และยังไม่ปิดสถานะต่อทุนชำระแล้ว 1.0%

และ AP จากต้นปีราคาปรับลง -27%, น้ำหนักใน SETESG 0.24%, จำนวนหุ้นที่ถูก Short และยังไม่ปิดสถานะต่อทุนชำระแล้ว 1.08%

ธนะชัย ณ นคร

Back to top button