“ควอนตัม เอสดีจีเอ็ม” ผนึก “เอ็มเอสที โกลด์” เปิดแพลตฟอร์มออมทองคำ

“ควอนตัม เอสดีจีเอ็ม” เครือสหพัฒน์ จับมือ “เอ็มเอสที โกลด์” พัฒนาแพลตฟอร์มการออมทองในรูปแบบดิจิทัล


นายพิภพ โชควัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอนตัม เอสดีจีเอ็ม จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท เป็นสตาร์ตอัปใหม่ของเครือสหพัฒน์ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะสนับสนุนการลงทุนในทองคำในรูปแบบดิจิทัลให้กับพนักงาน คู่ค้า และลูกค้าของเครือสหพัฒน์ โดยในงานสหกรุ๊ปแฟร์เมื่อปี 2566 ทางเครือสหพัฒน์ ได้มีการลงนามความร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มการออมทองในรูปแบบดิจิทัล โกลด์ เซฟวิ่ง (Digital Gold Saving) เพื่อให้พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และบริษัทในเครือสหพัฒน์ เข้าถึงการลงทุนในทองคำได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพการซื้อขายทองคำ

ทั้งนี้ทำให้นักลงทุนไทยได้มีโอกาสเข้าถึงตลาดทองคำมากขึ้น ไม่ว่าจะตลาดในประเทศหรือต่างประเทศ โดยมีบล็อกเชนเป็นโครงสร้างพื้นฐาน และมีเอ็มทีเอส โกลด์ เป็นผู้จัดหาทองคำ

“การลงนามความร่วมมือระหว่างควอนตัม เอสดีจีเอ็ม และเอ็มทีเอส โกลด์ ในปีนี้เป็นการต่อยอดจากปีก่อนหน้า โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมมือกันผลิตทองคำแท่ง ความบริสุทธิ์ 99.99% ตามมาตรฐานสากล เพื่อรองรับระบบดิจิทัล โกลด์ เซฟวิ่ง สำหรับการออมทอง การลงทุนในทองคำ และใช้ทองคำเป็นหลักทรัพย์สำรองของเครือสหพัฒน์และพันธมิตร ซึ่งจะทำให้เรามีบริการที่ครบวงจร ตั้งแต่ระบบออมทอง การผลิตทองคำ รวมถึงการจัดเก็บทองคำในห้องนิรภัยระดับสูง พร้อมการออกแบบ การตรวจสอบที่โปร่งใส ที่จะทำให้ผู้ใช้งานทุกคนเชื่อมั่นในความปลอดภัย และมั่นใจในสินทรัพย์ทองคำที่บริษัทจัดเก็บให้” นายพิภพ กล่าว

นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานฝ่ายบริหาร บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด กล่าวว่า เอ็มทีเอส โกลด์ เป็นผู้นำด้านการนำเข้าและส่งออกทองคำรายใหญ่ของประเทศไทย สามารถผลิตทองคำแท่งระดับพรีเมียม ด้วยเนื้อทองคำบริสุทธิ์เต็ม 99.99% โดยใช้กรรมวิธีและเครื่องมือผลิตระดับสากล ความบริสุทธิ์ของเนื้อทองที่ได้คุณภาพ ทำให้สินค้าที่ผ่านการแปรรูปจากเนื้อทองคำของเอ็มทีเอส โกลด์ มีความสวยงามและได้มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในตลาดทองคำ

“เรามีความยินดีที่ได้ต่อยอดความร่วมมือกับเครือสหพัฒน์อีกครั้ง โดยความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการร่วมกันผลิตทองคำเพื่อรองรับระบบออมทองที่ได้เคยร่วมมือกันมาก่อนหน้านี้ ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับทั้ง 2 ฝ่ายได้เติบโตขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน สินทรัพย์ประเภททองคำได้รับความสนใจเป็นอย่างมากทั้งจากนักลงทุนและประชาชนทั่วไปที่ซื้อเพื่อเก็บออมหรือลงทุน เพราะเป็นสินทรัพย์ประเภทสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงที่มีความผันผวนทางเศรษฐกิจสูง เช่น เงินเฟ้อ เงินฝืด หรือเกิดวิกฤต” นายณัฐพงศ์ กล่าว

Back to top button