ส่อง 14 หุ้น mai ราคาครึ่งปีแรก พุ่งกว่า 20%

เปิดโผ 14 ราคาหุ้นในกลุ่มเอ็ม เอ ไอ (mai) พบราคาทะยานกว่า 20% ในช่วงครึ่งแรกของปี 67 โชว์ 24CS พุ่งกว่า 122% ลุ้นไตรมาส 2/67 โตต่อ เดินหน้าศึกษาแผนการลงทุนธุรกิจใหม่


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของกลุ่ม ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในรอบ 6 เดือนแรก หรือช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่ผ่านมา mai แกว่งตัวไซด์เวย์ดาวน์ลงมาปิดที่ระดับ 355.45 จุด (ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2567) จากปิดสิ้นสุดวันที่ 28 ธ.ค. 2566 อยู่ที่ 411.61 จุด พบว่าปรับตัวลงมา 56.16 จุด หรือลงไป 13.64% จากสถานการณ์ธนาคารกลางสหรัฐยังคงตรึงดอกเบี้ยในระดับสูง รวมถึงประเด็นการเมืองยังคงกดดันต่อเนื่อง และยังมีแรงขายฟันด์โฟลว์ออกมาต่อเนื่อง

ขณะที่พบความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่มเอ็ม เอ ไอ ที่สามารถปรับตัวขึ้นชนะดัชนีได้อย่างแข็งแกร่งช่วงครึ่งปีแรก โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเกิน 20% ได้แก่ 24CS, TRT, CHOW, NDR, STP, SELIC, ITTHI, PROS, TPS, PRAPAT, JPARK, VL, PIMO และ TMW

ทั้งนี้ทาง “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้ทำการคัดสรร 5 ตัวที่น่าสนใจมากฝากนักลงทุน ได้แก่ 24CS, TRT, CHOW, NDR, และ STP เนื่องจากเป็นตัวที่ราคาหุ้นสามารถชนะดัชนีกลุ่มได้อย่างแข็งแกร่ง

บริษัท ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ 24CS โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค. 2566 ที่ระดับ 1.44 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2567 ที่ระดับ 3.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.76  บาท หรือ 122.22% สะท้อนจากปัจจัยบวกจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้รับงานใหม่ คือ โครงการรับเหมางานระบบประกอบอาคารและงานโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงโครงการขายพร้อมติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี

ขณะที่ทิศทางธุรกิจผลประกอบการไตรมาส 2/2567 คาดจะดีกว่าจากไตรมาสก่อนหน้า และช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยบริษัทยังเดินหน้าศึกษาแผนการลงทุนธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างฐานการเติบโตในอนาคต

บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค. 2566 ที่ระดับ 2.48 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2567 ที่ระดับ 4.60 บาท เพิ่มขึ้น 2.12 บาท หรือ 85.48% สะท้อนจากปัจจัยบวกจากผลการดำเนินงานไตรมาสแรกกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง พร้อมมองแนวโน้มปี 2567 ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 2,783 ล้านบาท สำหรับ 2 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า และกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่หม้อแปลง อีกทั้งบริษัทมีงานประมูลและเสนอราคาทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง

บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค. 2566 ที่ระดับ 1.51 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2567 ที่ระดับ 2.76 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 82.78% สะท้อนจากปัจจัยบวกจากผลประกอบการไตรมาส 1/2567 กลับมาฟื้นตัวแข็งแกร่งทั้งจากไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

รวมถึงแนวโน้มธุรกิจในปี 2567 คาดจะเติบโตแข็งแกร่ง จากทั้งธุรกิจผลิตเหล็ก และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงจับมือพันธมิตรใหม่ต่อเนื่อง

บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค. 2566 ที่ระดับ 1.19 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2567 ที่ระดับ 1.97 บาท เพิ่มขึ้น 0.78 บาท หรือ 65.55% สะท้อนจากปัจจัยบวกจากผลประกอบการไตรมาส 1/2567 กลับมาฟื้นตัวแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมองแนวโน้มแผนธุรกิจในปี 2567 จะสามารถพลิกฟื้นกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ วางเป้ารายได้อยู่ที่ 900-950 ล้านบาท เนื่องจากการขยายพอร์ตสินค้า High Margin มากขึ้น

บริษัท สหไทยการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ STP โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค. 2566 ที่ระดับ 9.35 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2567 ที่ระดับ 14.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.65 บาท หรือ 49.73% สะท้อนจากปัจจัยบวกจากผลประกอบการไตรมาส 1/2567 เติบโตแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า

ทั้งนี้ ทิศทางธุรกิจปี 2567 น่าจะดีต่อเนื่อง เริ่มมีลูกค้าปลายทางของของลูกค้าหลัก และการขยายธุรกิจ และมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต Double Digit จากการรักษาฐานลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่ รวมถึงออกผลิตภัณฑ์ใหม่

Back to top button