พาราสาวะถี

วันนี้ (8 กรกฎาคม) พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาชุดเก่า นัดประชุมโดยอ้างว่าเมื่อสภาเปิดประชุมสมัยสามัญแล้ว และทาง กกต.ยังไม่ได้ประกาศรับรองผลการเลือก สว.ชุดใหม่ จึงเป็นหน้าที่ของชุดที่เตรียมจะลาโรงดำเนินการจัดการประชุมระหว่างรอได้ น่าสนใจคือ จะมีการพิจารณาญัตติของ สมชาย แสวงการ ที่เสนอให้วุฒิสภาตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาถึงการเลือกกันเองของ สว.ชุดใหม่ คำถามว่า เพื่ออะไร และไปได้ข้อมูลดีมาจากไหนว่า กกต.จะยังไม่มีการประกาศรับรองผลในเร็ววันนี้

มองในแง่ดีก็อาจเห็นว่าเป็นการทำงานกันจนวินาทีสุดท้าย ทั้งที่ได้ถ่ายรูปโบกมือลากันไปแล้ว แต่มองด้านลบ นี่เป็นการเดินเกมกดดันเพื่อไม่ให้ กกต.เร่งรีบรับรองรายชื่อว่าที่ สว.ทั้ง 200 คนพร้อมบัญชีรายชื่อสำรองอีก 100 คน แต่เมื่อมองในแง่ของความเหมาะสมในฐานะที่มาจากการลากตั้ง หลังมีการเลือกโดยกระบวนการของรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่า กกต.จะรับรองหรือไม่ โดยมารยาทก็ควรจะรอเพื่อส่งมอบงานให้ชุดใหม่ดูจะสง่างามกว่า

ยิ่งมาพิจารณาญัตติที่เสนอโดย สว.ที่ชัดเจนว่ามีความพยายามที่จะทำให้การเลือก สว.ครั้งนี้เป็นโมฆะ มันย่อมมองในแง่มุมที่เป็นบวกได้ยาก อย่างไรก็ตาม สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ก็มองว่า แม้เรื่องร้องเรียนจะมีมากถึง 614 เรื่อง แต่กระบวนการพิจารณาเพื่อนำไปสู่การรับรองไม่น่าจะช้า หากประกาศรับรองผลเร็วเกินไป อาจจะเหมือนว่า กกต.ไม่ทำงาน ไม่คิดแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น การประวิงเวลาไปเล็กน้อยอาจจะเป็นภาพที่ดีของ กกต.ว่าให้ความใส่ใจ สมชัยเชื่อว่าการประกาศรับรองจะเกิดขึ้นแน่ไม่เกินสัปดาห์นี้

ต้องยอมรับกันว่า หลังเสร็จสิ้นกระบวนการเลือกระดับประเทศแล้ว การที่มีผู้ยื่นร้องทั้งต่อ กกต.โดยตรง ร้องต่อศาลปกครอง ทำให้เห็นสภาพปัญหา รวมไปถึงการทำงานของ กกต.เพราะสะท้อนให้เห็นว่าจัดเลือก สว.มีปัญหาหลายอย่าง ตั้งแต่การแบ่งกลุ่มจนถึงกระบวนการเลือก การเลือกกันเองและการเลือกไขว้ ที่มีเสียงวิจารณ์อย่างหนักเรื่องของการฮั้วกัน บล็อกโหวต โดยทาง กกต.เองก็อ้างว่ามีหลักฐาน มีการเก็บข้อมูลไว้หมดแล้ว ตรงนี้เป็นสิ่งที่จะต้องเปิดเผยให้สังคมหายเคลือบแคลง

ทั้งนี้ การประกาศรับรองผลของ กกต.ถ้าจะเกิดขึ้น อาจมีข้อกังขาว่าท่ามกลางเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก ทำไมถึงเร่งรัดขนาดนั้น ความจริงก็ไม่มีอะไรซับซ้อน คนที่เป็นปัญหาก็อาจจะรับคำร้องไว้พิจารณา และตั้งกรรมการไต่สวนสืบสวนข้อเท็จจริง หากพบความผิดตามข้อกล่าวหาก็สามารถถอดถอนภายหลัง ที่เรียกว่า รับรองไปก่อนสอยทีหลังนั่นเอง โดยกรณีนี้ต้องอาศัยอำนาจศาลและใช้เวลานานซึ่งอาจกินเวลาเป็นปี แต่ก็ไม่มีปัญหาเพราะสามารถเลื่อนคนจากบัญชีรายชื่อสำรองขึ้นมาแทนได้

อรชุน