จังหวะโหนกระแส

หากตลาดหุ้นไทยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง หรือบรรยากาศรอบด้านทรงตัวอยู่แบบนี้ “โมนิก้า” ก็เชื่อว่า ดัชนีมีโอกาสขึ้นไปทดสอบยอดเดิมที่บริเวณ 1,325 จุด อีกครั้ง


หากตลาดหุ้นไทยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง หรือบรรยากาศรอบด้านทรงตัวอยู่แบบนี้ “โมนิก้า” ก็เชื่อว่า ดัชนีมีโอกาสขึ้นไปทดสอบยอดเดิมที่บริเวณ 1,325 จุด อีกครั้ง เพราะปัญหาที่เคยสร้างความไม่สบายใจให้กับนักลงทุน เริ่มคลี่คลายไปทีละเปลาะ ผนวกกับนักเล่นบางกลุ่มเชื่อว่า ความเสี่ยงของการลงทุนในระดับนี้มีไม่มาก จึงกล้าเข้ามาเล่นเก็งกำไรกันอีกรอบไงล่ะคะ

คิดดูแล้วกัน! ขนาดแรงซื้อไม่หนาแน่นเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ดัชนียังขยับตัวขึ้นปิดที่ระดับ 1,311.99 จุด บวกไป 10.95 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.29 หมื่นล้านบาทได้เลย จึงทำให้เชื่อว่า สัปดาห์นี้ดัชนีน่าจะมีลุ้นไปต่ออย่างแน่นอน เพราะแรงชอร์ตลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ผนวกกับแรงฟอร์ซเซลก็ลดเช่นกัน เลยเป็นจังหวะการลงทุนที่ว่าด้วยเรื่องพื้นฐาน และความมั่นใจล้วน ๆ นะจะบอกให้

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ การทะยานขึ้นของ EA ด้วยแรงซื้อที่หนาแน่นตลอดทั้งวัน ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 13.70 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 12.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.27 พันล้านบาท มันคือภาพที่ชี้ให้เห็นว่า “สมโภชน์” กับ “อมร” เคลียร์ปัญหาหุ้นถูกบังคับขายจบแล้ว! และต่อไปนี้จะว่าด้วยเรื่องพื้นฐานเป็นประเด็นหลัก “โมนิก้า” เลยมองว่า ตอนนี้เป็นจังหวะของการโหนกระแสของแทร่!

ส่วนรายที่ไปฉิว เพราะมีเรื่องซื้อหุ้นคืนเป็นแบ็กอัพ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น COM7 เป็นรายถัดมา ผนวกกับได้รับแรงหนุนจากบรรยากาศตลาดหุ้นที่ดีขึ้น ราคาหุ้นถึงยืนปิดที่ระดับ 20.60 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 6.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 838 ล้านบาทแบบสบาย ๆ และมีโอกาสที่จะได้เห็นหุ้นบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 แบบนี้ เดี๊ยนจึงต้องบอกเล่าสตอรี่ดังกล่าวให้แฟนคลับฟังอีกครั้งพะย่ะค่ะ

อีกรายที่บวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และมีลุ้นบวกต่ออีกวัน เดี๊ยนขอมองไปที่หุ้น HANA หลังมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง จนราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 48.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 522 ล้านบาท ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่มีสีสันมากกว่าเมื่อก่อน “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม เพราะรอบก่อนเคยเห็นกันแล้วว่า  ขึ้นไปแตะแถว 55 บาทมาแล้วน่ะซี

หุ้นใหญ่อีกตัวที่น่าสนใจ คงต้องมองไปที่หุ้น BCP หลังราคาหุ้นพุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ระดับ 40 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 462 ล้านบาท และเป็นการขึ้นแบบมีวอลุ่มซัพพอร์ตเป็นครั้งแรกในรอบเดือนแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมเชื่ออย่างสนิทใจว่า นี่เป็นจังหวะของการไหลตามน้ำ และหุ้นมีโอกาสเล่นต่ออีกพักใหญ่ ๆ เพราะเป็นการขยับตัวขึ้นจากฐานต่ำเจ้าค่ะ

เม้าท์ถึงหุ้นใหญ่พอประมาณแล้ว “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงหุ้นเล็กสายซิ่งอย่าง DITTO กันบ้างดีกว่า! เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 14.90 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 9.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 109 ล้านบาท ทั้งที่ราคาหุ้นไหลลงเป็นแรมปีแบบนี้ มันน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของการเล่นเที่ยวนี้ และถ้าดูจากการเทรดบน PE 26 เท่า บวกกับผลงานปี 67 ยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกเช่นนี้..น่าสนใจไหมล่ะคะ

ไหน ๆ ก็มาแนวลุยสุดซอยกันทั้งที “โมนิก้า” ขอหันกลับไปมองหุ้น NRF เพื่อบอกเล่าสถานการณ์ฟอร์ซเซลน่าจะจบลงแล้ว! จึงมีแรงซื้อกลับเข้ามาตลอดทั้งวัน ก่อนจะยืนปิดไปที่ระดับ 2 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 9.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 269 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับ BV 2 บาทแบบนี้ เดี๊ยนย่อมมองเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และเหมาะสำหรับคนที่ชอบเข้าออกเร็ว ผนวกกับก่อนเกิดปัญหาโดนฟอร์ซเซล ราคาหุ้นก็ย่ำไปมาที่ 5 บาทนะตัวเอง

สถานการณ์ที่เริ่มกระเตื้องขึ้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น JMT เพื่อชี้ให้เห็นการยืนปิดที่ระดับ 13.30 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 287 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 10 เท่าแบบนี้ เดี๊ยนย่อมมองเป็นหุ้นที่น่าสนใจในแง่ของดาวน์ไซด์ต่ำ และการที่หุ้นเพิ่งขึ้นอย่างจริงจังเป็นวันที่ 2 ทำให้เชื่อว่า วันนี้น่าจะเล่นต่อค่อนข้างสูง แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับบรรยากาศตลาดหุ้นเป็นใจแค่ไหนด้วยนะคะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button