KKPS แนะ “ซื้อ” CPF เป้า 31 บ. ลุ้นกำไร Q2 โตทะลัก รับราคาหมู-ไก่ขึ้น!

บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคาดการณ์ว่า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF จะฟื้นจากผลขาดทุนในไตรมาส 2/66  เป็นกำไรในไตรมาส 2/67 โดยจะมีกำไรโตขึ้น 186% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ โต 796% เทียบไตรมาสก่อนหน้า โดยแม้จะคาดว่าการเติบโตของรายได้จะลดลง 4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่จะเพิ่มขึ้น 3% เทียบไตรมาสก่อนหน้า

ทั้งนี้ KKPS คาดว่า CPF จะได้รับปัจจัยบวกจากราคาเนื้อสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เวียดนามและจีน โดยในไตรมาสไตรมาส 2/67 ราคาไก่จะเพิ่มขึ้นเป็น 43.5 บาท/กก. (ลดลง 0.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, โต 4.3% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) จากอุปสงค์การส่งออกที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่ราคาหมูจะเพิ่มขึ้นเป็น 68.3 บาท/กก. (ลดลง 5.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, เพิ่มขึ้น 8.8% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) เนื่องจากผลกระทบจากสินค้าหมูเถื่อนที่ลดลงและอุปทานเนื้อหมูภายในประเทศลดน้อยลง

ด้านปัจจัยจากต่างประเทศ ราคาหมูในเวียดนามโตขึ้นแตะระดับ 64,000 ดอง/กก. (เพิ่มขึ้น 16% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, เพิ่มขึ้น 20% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) จากการขาดอุปทานเนื่องจากเวียดนามได้รับผลกระทบจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever: ASF)

ส่วนราคาหมูในจีนเพิ่มขึ้นแตะระดับ 16.5 หยวน/กก. (เพิ่มขึ้น 15% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, เพิ่มขึ้น 13% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) โดยคาดว่าจะช่วยหนุนรายได้ของ CPF ให้สูงขึ้นจากการดำเนินงานในจีน

ด้านอัตรากำไร KKPS คาดว่า CPF จะมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) สูงขึ้นจาก 12% ในไตรมาส 1/67 เป็น 13.5% ในไตรมาส 2/67 โดยได้ประโยชน์จากราคาเนื้อสัตว์ในไทย และเวียดนามที่สูงขึ้น ในขณะที่ราคาเนื้อสัตว์ทะเลจะหดตัวลงเล็กน้อย

KKPS ระบุว่า ต้นทุนวัตถุดิบภายในประเทศเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา จากราคาข้าวโพดที่สูงขึ้น แต่ก็มีอัตราลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ในขณะเดียวกัน ต้นทุนดังกล่าวในประเทศเวียดนามมีการลดลงอย่างต่อเนื่องทั้ง เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งช่วยให้ CPF สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ KKPS มองว่า CPF จะได้รับประโยชน์จากปัจจัยต่าง ๆ ของตลาดซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสามารถในการทำกำไรโดยรวม โดยตอบสนองกับความเคลื่อนไหวของตลาดและการดำเนินงานในตลาดที่สำคัญของบริษัท คงคำแนะนำ ‘ซื้อ’ ที่ราคาเป้าหมาย 31.00 บาท