ACC เลิก ‘กัญชา’.!
ดีเดย์ 1 ม.ค. 2568 กระทรวงสาธารณสุขจะดึง “กัญชง-กัญชา” ในส่วนช่อดอก และสารสกัดที่มีค่า THC มากกว่า 0.2% กลับเป็นยาเสพติดอีกครั้ง
ดีเดย์ 1 ม.ค. 2568 กระทรวงสาธารณสุขจะดึง “กัญชง-กัญชา” ในส่วนช่อดอก และสารสกัดที่มีค่า THC มากกว่า 0.2% กลับเป็นยาเสพติดอีกครั้ง หลังปลดล็อกมา 2 ปี ก็ทำให้บรรดาผู้ประกอบการสายเขียวระส่ำ จากก่อนหน้านี้หวังจะขุดทองจากธุรกิจกัญชง–กัญชา กลายเป็นขุดดินแทนเสียละมั้ง…
ทำให้ช่วงนี้เห็นหุ้นสายเขียวมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ…หนึ่งในนั้นคือ บริษัท แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ACC ซึ่งเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้ประกอบการสายเขียว โดยมีบริษัทลูกที่ชื่อบริษัท เอซีซี แคนนาบิส จำกัด หรือ เอซีซีแคน (ACC ถือหุ้นสัดส่วน 80%) เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันบุกเบิกธุรกิจกัญชง–กัญชา
ไล่มาตั้งแต่ไปจับมือกับคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน เพื่อร่วมวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Actioning Research) ระดับอุตสาหกรรม ภายใต้ชื่อ “การวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์และเทคโนโลยีการผลิตกัญชงต้นทุนต่ำระดับอุตสาหกรรม เพื่อส่งมอบองค์ความรู้สู่เกษตรกรไทย”
จับมือกับพันธมิตรอย่างบริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น จำกัด (สเปเชียลตี้) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการสกัดสารสกัด Cannabidiol และบริษัท CANNAKI, Inc. USA (แคนนากี้) เป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ Cannaki มีฐานธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนนาดา เม็กซิโก และยุโรป เพื่อร่วมกันวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีสารสกัด Cannabidiol หรือสารสกัดอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบ
แต่ผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว ดูเหมือนการเก็บเกี่ยวดอกผลจากกัญชง–กัญชายังทำได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย…มิหนำซ้ำ ต้องบันทึกด้อยค่าเงินลงทุนทุกปีอีก…ทำให้แทนที่จะมาช่วยดันกำไร กลายเป็นตัวถ่วงงบการเงินเป็นงั้นไป..!?
เมื่อประเมินสถานการณ์แล้วไม่รุ่ง…ครั้นถ้ายังฝืนทำต่อมีแต่จะเข้าเนื้อ ในที่สุด ACC เลยตัดสินใจถอยดีกว่า…ไม่เอาดีกว่าธุรกิจกัญชง–กัญชา ประเดิมด้วยการตัดปลาย โดยเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ไฟเขียวให้ “เอซีซีแคน” ขายหุ้นสัดส่วน 60% ในบริษัท แคนนาบิซ ครอป จำกัด (เข้าลงทุนเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2564 ด้วยมูลค่า 1.8 ล้านบาท) ซึ่งทำธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา ราคาหุ้นละ 0.75 บาท คิดเป็นเงิน 180,000 บาท
แต่แปลกแฮะ…ยอมขายขาดทุน หรือต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ซึ่งอยู่ที่ 254,266.31 บาท ตามสัดส่วนการถือหุ้น 60%..!!
ในประเด็นนี้ ACC ให้เหตุผลว่า เนื่องจากแคนนาบิซ ครอป ไม่สามารถสร้างผลกำไรได้ตามเป้าหมายและมีแนวทางการทำธุรกิจไม่สอดคล้องกลยุทธ์ของบริษัท…ส่วนจะฟังขึ้นหรือเปล่า..?? แล้วแต่จะคิด
ขณะที่ ความเคลื่อนไหวล่าสุด ก็ประกาศขายหุ้นสัดส่วน 80% ที่ถือใน “เอซีซีแคน” (เข้าลงทุนเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2564 ด้วยมูลค่า 32 ล้านบาท) ซึ่งดำเนินธุรกิจกัญชง–กัญชา ที่ราคาหุ้นละ 10.625 บาท คิดเป็นเงิน 34 ล้านบาท ให้กับ “เอกภพ พานิชนาวา”
เท่ากับว่า ACC จะเลิกพี้กัญชา…อุ๊ย ถอนรากถอนโคนต้นกัญชง–กัญชาทิ้งแล้วน่ะสิ…
จากนั้นจะหันมาโฟกัสธุรกิจหลัก ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจพลังงานทดแทน และธุรกิจการจัดจำหน่ายละมั้ง…
ส่วนเมื่อตัดขายธุรกิจกัญชง–กัญชาไปแล้ว ถามว่าจะมีโอกาสได้เห็นกำไรของ ACC หรือเปล่า..?? เรื่องนี้ตอบยาก…แต่ก็เอาใจช่วยละกัน
ว่าไปแล้ว บทสรุปของเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจนโยบายภาครัฐ เพราะจะจนใจเอง…จากความไม่ชัดเจนของภาครัฐ นโยบายเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา (ผลพวงมาจากเกมการเมือง) แต่สุดท้ายคนที่รับกรรมเป็นภาคเอกชนและประชาชนตาดำ ๆ งานนี้ได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ…
ดังนั้น บริษัทไหนที่หวังจะหากินกับนโยบายของภาครัฐ ควรตระเตรียมทางหนีทีไร่เผื่อไว้ด้วย เพราะหากวันดีคืนดีนโยบายรัฐเปลี่ยน จะได้รับมือได้ทันท่วงที…
อย่าลืมว่า ไทยแลนด์แดนสไมล์อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้..!?
…อิ อิ อิ…