IPO ไทยฟุบ..ฮ่องกงฟื้น.!
ตลอดช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่ผ่านมา พบว่า มีการนำหุ้นไอพีโอ (IPO) เข้าซื้อขายใน SET และตลาด mai จำนวน 17 บริษัท
ตลอดช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่ผ่านมา พบว่า มีการนำหุ้นไอพีโอ (IPO) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 17 บริษัท แบ่งเป็นเข้าซื้อขายใน SET จำนวน 6 บริษัท และเข้าซื้อขายตลาด mai จำนวน 11 บริษัท
จาก 17 ไอพีโอดังกล่าว..ราคาหุ้นเหนือจองเพียง 6 บริษัท แต่ราคาต่ำจองมากถึง 11 บริษัท..!?
ทำให้กัดกร่อนบรรยากาศการลงทุนหุ้นไอพีโออย่างมีนัยสำคัญ..จนเป็นเหตุให้บริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง ที่ยื่นไฟลิ่งไปแล้ว มีอันต้องเลื่อนการขาย IPO และเข้าซื้อขายในตลาดรองออกไปก่อน เพื่อจับจ้องดูสถานการณ์ต่าง ๆ และความเป็นไปของตลาดหุ้นไทยอย่างใกล้ชิด
นั่นจึงทำให้เป้าหมายการต้อนรับ IPO น้องใหม่ปีนี้..คงต้องมีการรีวิวกันอีกครั้ง..!!
จากข้อมูลจากดีลอยท์ (Deloitte) บ่งชี้ว่า ตลาด IPO ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญช่วง 6 เดือนแรกปี 2567 มูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) ปรับตังลง 71% หรืออยู่ที่ระดับ 5,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยหุ้น IPO ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอยู่เพียง 67 บริษัท ลดลง 21.2% เทียบช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน การระดมทุนผ่านหุ้น IPO ลดลง 53.3% เทียบกับปีก่อน ด้วยมูลล่า 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่สำคัญเดือนม.ค.-มิ.ย. 67 ไม่มีการทำ IPO ครั้งใหญ่อย่างมีนัยสำคัญ มีเพียงการทำ IPO ขนาดใหญ่ 1 ครั้ง ด้วยมาร์เก็ตแคปมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และระดมทุนกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนที่มีการทำ IPO ขนาดใหญ่ 3 ครั้ง และแต่ละครั้งระดมทุนได้กว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ดีลอยท์ ระบุอีกว่า ทิศทางขาลงเช่นนี้ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังปี 2565 และทิศทางดังกล่าวสะท้อน ให้เห็นว่าบรรยากาศในตลาด IPO ซบเซาลง
“นักลงทุนและบริษัทที่มีแผนทำ IPO ยังคงมีการประเมินปัจจัยเกี่ยวกับเศรษฐกิจมหภาค”..!!
“เทย์ ฮวี หลิง” หัวหน้าฝ่ายบัญชีและการรับรองรายงานประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของดีลอยท์ ระบุว่า แม้แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจ อยู่ในทิศทางบวก และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปรับตัวสูงขึ้น
แต่ภาวะไร้เสถียรภาพด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานและสภาพแวดล้อมของอัตราดอกเบี้ย ที่อยู่ระดับ สูงนั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญส่งผลกระทบต่อภาวะตลาดและความเชื่อมั่นของนักลงทุนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นักวิเคราะห์จากดีลอยท์ เตือนว่า “ภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงอาจยืดเยื้อต่อไปช่วงปี 2567 เนื่องจากรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ แสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อ”..!?
“จอร์จ ชาน” หัวหน้าฝ่าย IPO ทั่วโลกของบริษัท อีวาย (EY) ระบุว่า ตลาด IPO ในตลาดหุ้นฮ่องกง จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากช่วง 5 ปีข้างหน้า เริ่มต้นช่วงครึ่งหลังปีนี้ และอาจต้องใช้เวลา 2-3 ปี ที่จะกลับไปสู่จุดสูงสุดเหมือนดั่งเช่นปี 2564
“อัตราดอกเบี้ย” สหรัฐฯ ระดับสูง ผนวกกับการตรวจสอบเข้มงวดด้านกฎระเบียบ การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน เป็นตัวจำกัดปริมาณการเสนอขายหุ้น IPO ของจีนแผ่นดินใหญ่ ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
โดย EY ระบุว่า แม้ปริมาณการเสนอขายหุ้น IPO และรายได้ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญช่วงครึ่งแรกปี 2567 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แต่จีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง พบว่า จำนวนบริษัทจดทะเบียนลดลงอย่างมาก..!?
ข้อมูลจาก Wind Information ระบุว่า ดัชนีฮั่งเส็ง (Hang Seng) นับตั้งแต่ต้นปีปรับขึ้นมากว่า 5% หลังปรับลดลงติดต่อกันถึง 4 ปี ถือเป็นการลดลงของมูลค่าที่เลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ดัชนีฮั่งเส็ง..!!
ช่วงเดือนมิ.ย.จีนออกมาตรการใหม่ เพื่อส่งเสริมการร่วมลงทุน และทางการจีน มีการพูดคุยอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการสนับสนุนหุ้น IPO โดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกง ทำให้บรรดานักลงทุนและนักวิเคราะห์ ต้องกำลังพิจารณาความเร็วของการอนุมัติ IPO เพื่อหาสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญดังกล่าว..!
เล็กเซียวหงส์