น้ำแล้ง-น้ำท่วมขี่พายุ ทะลุฟ้า
รัฐบาลเก่าทิ้งภารกิจที่ขึ้นโครงไว้โดยไม่มีโอกาสได้สานต่ออยู่ 2 เรื่อง เรื่องหนึ่งคือเมกะโปรเจ็กต์ระบบราง และอีกเรื่องหนึ่งก็คือเมกะโปรเจ็กต์ระบบน้ำ
ชาญชัย สงวนวงศ์
รัฐบาลเก่าทิ้งภารกิจที่ขึ้นโครงไว้โดยไม่มีโอกาสได้สานต่ออยู่ 2 เรื่อง เรื่องหนึ่งคือเมกะโปรเจ็กต์ระบบราง และอีกเรื่องหนึ่งก็คือเมกะโปรเจ็กต์ระบบน้ำ
รัฐบาลทหารเข้ามา ปฏิเสธไม่ทำโครงการน้ำขนาดใหญ่ เพื่อจะได้ไม่ซ้ำรอยกับรัฐบาลเก่า แต่เท่าที่เห็นและเป็นมา 1 ปีกับ 7 เดือน ก็ไม่เห็นจะทำโครงการขนาดเล็กอะไรเหมือนกัน
โครงการน้ำ ถูกละลืมไปเลยอย่างน่าอัศจรรย์ใจจริงๆ
ที่น่าเสียดายที่สุดก็คือ เขื่อนแก่งเสือเต้น ซึ่งจะเป็นที่กักเก็บน้ำแม่ยม ซึ่งเป็นแม่น้ำสายเดียวที่ไม่มีเขื่อนกักเก็บเลย
ไม่สร้างในยุคทหาร แล้วจะไปสร้างในยุคไหน
ปัญหาน้ำแล้งกับน้ำท่วม ว่าไปแล้วก็น่าจะเป็นโจทย์เดียวกันในการแก้ปัญหา
กล่าวคือ ยามหน้าฝน ก็ต้องมีอ่างเก็บน้ำไว้รองรับพอสมควร เพื่อไม่ให้น้ำไหลลงทะเลไปโดยเปล่าประโยชน์
ปีไหนน้ำมามาก ก็ใช้อ่างเก็บน้ำทั้งหลายนั่นละ เป็นที่กักเก็บน้ำ ไม่ให้ไหลท่วมลงมาสร้างวิกฤติในพื้นที่ด้านล่าง
ในขณะเดียวกัน ปีไหนน้ำน้อย ก็จะได้อาศัยน้ำจากเขื่อนและอ่างเก็บน้ำทั้งหลายนี่แหละ มาแก้ปัญหาวิกฤติน้ำแล้ง
ถ้าเรามีการตระเตรียมแผนบริหารจัดการน้ำแต่เนิ่นๆ มาก่อนหน้านี้ ก็คงไม่ต้องมานั่งวิตกทุกข์ร้อนเรื่องน้ำแล้งเช่นทุกวันนี้
ครับ ปีนี้เรากำลังเผชิญกับความแห้งแล้ง ซึ่งวิกฤติที่สุดเป็นประวัติการณ์
น้ำเพื่อใช้ในการเกษตรไม่พอแล้ว ถึงขนาดรัฐบาลประกาศห้ามชาวนาปลูกข้าวนาปรัง น้ำเพื่อใช้ในการอุตสาหกรรมก็จะไม่พอ กระทั่งน้ำเพื่อการบริโภคกินใช้ ก็จะขาดแคลนไปด้วย
ปริมาณน้ำที่ใช้ได้จริงตามเขื่อนที่หล่อเลี้ยงลุ่มเจ้าพระยา วัดได้ ณ ล่าสุด วันที่ 20 ม.ค. 59 คือ 3,200 ล้านลูกบาศก์เมตร
วันหนึ่ง ความต้องการใช้น้ำทุกประเภทในลุ่มเจ้าพระยามีทั้งสิ้น 20 ล้านลูกบาศก์เมตร ในจำนวนนี้เป็นความต้องการใช้ในกรุงเทพฯที่เดียวถึง 5 ล้านลูกบาศก์เมตร
ถ้านับเคาต์ดาวน์ถอยหลังจากนี้ไป เราจะมีน้ำใช้ไปอีก 160 วัน หรือก็คือ 5 เดือนข้างหน้า ซึ่งก็จะต้องประคองใช้น้ำไปให้ได้จนถึงปลายเดือน 6 หรือเดือนมิถุนายนข้างหน้า
ปัญหาว่าถึงตอนนั้น พระพิรุณจะโปรยปรายลงมาให้หรือเปล่า ซึ่งเรื่องของฟ้าฝนเป็นความไม่แน่นอน เหตุการณ์อาจจะฝนมาล่าช้าและทิ้งช่วงเหมือนกับปีที่แล้วก็เป็นไปได้
เราอาจจะต้องเตรียมการรับมือแต่เนิ่นๆ อาทิ อาจะต้องกำหนดเวลาปิดเปิดน้ำประปา
กระทั่งอาจจะต้องงดปล่อยน้ำมาเล่นสงกรานต์ก็เป็นไปได้
ไม่ได้กุเรื่องขึ้นมาขู่กันเล่นๆ นะครับ แต่ภาวะจริงเรื่องน้ำในปีนี้ มันหนักหนาสาหัสจริงๆ
ยังพอมีงานสัมมนาดีๆ ที่จะเป็นทางออกหรือชี้แนะทางแก้ไขปัญหากันได้บ้าง ซึ่งจัดโดยคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่น 2550
ก็รุ่นเดียวกับนายกฯพล.อ.ประยุทธ์นั่นล่ะครับ
งานนี้ใช้ชื่อว่า “รวมพลังคนไทย ร่วมใจฝ่าภัยแล้ง” จัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 25 ม.ค. 58 ตั้งแต่เวลา 17.30-20.50 น. ณ โรงแรมเซนทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์
ระดมวิทยากรผู้รู้กันมา ได้แก่กูรูน้ำ อาจารย์ชวลิต จันทรรัตน์ ประธานบริษัททีม กรุ๊ป, ชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทน้ำประปาไทย, เจริญ ภัสระ ประธานกรรมการประปานครหลวง และวิทยา ฉายสุวรรณ ประธานอีสท์วอเตอร์
มีกิตติ สิงหาปัด เป็นผู้ดำเนินรายการ งานนี้พลาดก็เสียดายแย่ ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ไปลงทะเบียนได้หน้างาน แต่งกายสุภาพชน
น้ำคือชีวิต แต่บัดนี้น้ำเกิดวิกฤติ ชีวิตก็คงต้องวิกฤติตามไปด้วย