ยูโรอ่อนค่าหลังอีซีบีส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงินเพิ่ม
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเดือนมี.ค.
ชสำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโร (21 ม.ค.) อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.0882 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.0884 ดอลลาร์สหรัฐ และในระหว่างวันนั้น ยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1.0778 ดอลลาร์สหรัฐ ด้านเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.4216 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4173 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6986 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6920 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 117.46 เยน จากระดับ 116.94 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0068 ฟรังค์ จากระดับ 1.0048 ฟรังค์ ขณะที่ยูโรได้รับแรงกดดันหลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB เปิดเผยในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า ECB จะทำการทบทวนนโยบายการเงินในการประชุมครั้งหน้าในเดือนมี.ค. โดยถ้อยแถลงของนายดรากีเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB อาจผ่อนคลายนโยบายมากขึ้น และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนมี.ค.
ส่วนในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไว้ที่ระดับ 0.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ตามความคาดหมายของตลาด ขณะเดียวกัน ECB ได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ -0.3%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 293,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2015 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 277,000 ราย
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 46 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนธ.ค.จากเฟดชิคาโก, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนธ.ค.จาก Conference Board