Carbon Tax กับโอกาส TEAMG
ตั้งแต่ปี 2568 ประเทศไทยประกาศเริ่มจัดเก็บ “ภาษีคาร์บอน” หรือ Carbon Tax เพื่อตอบรับทิศทางประเทศสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
ตั้งแต่ปี 2568 ประเทศไทยประกาศเริ่มจัดเก็บ “ภาษีคาร์บอน” หรือ Carbon Tax เพื่อตอบรับทิศทางประเทศสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2065
เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงจังด้านความยั่งยืน ตอบรับกับกระแสทั่วโลก..!!!
การจัดเก็บภาษีคาร์บอนดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (พ.ร.บ. Climate Change) ที่จะมีในอนาคต
ช่วงแรกจะจัดเก็บภาษีโดยใช้หลักการภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่เก็บอยู่แล้วนำมาผูกกับภาษีคาร์บอน โดยจะเริ่มเก็บจากสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ที่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ก่อน เช่น ภาษีน้ำมัน และภาษีรถยนต์เป็นต้น เพื่อไม่เพิ่มภาระภาษีแก่ประชาชน
กำหนดราคากลางที่ 200 บาทต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์ (น้อยกว่าราคาฝั่งยุโรปและสิงคโปร์)
ประเมินกันว่าการเก็บภาษีคาร์บอน จะกระตุ้นให้ธุรกิจต่าง ๆ หันมาใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากขึ้น เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน
เฉกเช่นธุรกิจที่พัฒนาสินค้าและบริการ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยังได้รับการลดหย่อนภาษี ส่งเสริมให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ยั่งยืนมากขึ้น เรียกได้ว่า Carbon Tax กลายมาเป็นกลไกขับเคลื่อนประเทศ สู่เป้าหมายด้าน Net Zero ของไทยในอนาคต..!!
หนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลเชิงบวกอย่างเป็นรูปธรรม..นั่นคือบริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG
ที่ล่าสุด 21 มิ.ย. 67 องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. อนุมัติให้ TEAMG ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบก๊าซเรือนกระจก (หมดอายุ 20 มิ.ย. 70)
นั่นทำให้ TEAMG สามารถให้การรับรอง และทวนสอบคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (CFO) ตามสาขาและขอบข่ายการทวนสอบก๊าซเรือนกระจกระดับองค์กร 8 สาขา 1)การผลิตพลังงานและการจัดการพลังงานไฟฟ้า 2)อุตสาหกรรมการผลิตทั่วไป
3)อุตสาหกรรมการผลิตสารเคมี 4)การดักจับและเก็บก๊าซเรือนกระจก 5)การขนส่ง 6)การจัดการและกำจัดของเสีย 7)การเกษตร ป่าไม้และการใช้ที่ดิน 8)กิจกรรมการบริการทั่วไป
ที่ผ่านมา TEAMG มีการนำร่องเรื่องคาร์บอนฟุตพริ้นท์มาแล้วและมีการเตรียมตัวมามากกว่า 1 ปี เพื่อสร้างมาตรฐานที่เป็นไปตามเกณฑ์และมีกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพที่ได้ใบรับรองระบบงานเป็นหน่วยตรวจสอบความใช้ได้และทวนสอบก๊าชเรือนกระจก จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)
กลุ่มเป้าหมาย คือองค์กรขนาดใหญ่ ทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯ กว่า 800 องค์กรและนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ TEAMG มีความพร้อมในการรองรับ พร้อมให้คำปรึกษาการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรธุรกิจพลังงานหมุนเวียน, ธุรกิจพลังงานและโรงไฟฟ้า, ธุรกิจพลังงานก๊าซและชีวมวล, ธุรกิจปิโตรเคมี, ธุรกิจอุตสาหกรรมและสิ่งทอและธุรกิจอื่น ๆ
เอาล่ะ..การรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่นี้..จะเริ่มได้เห็นเป็นเนื้อเป็นหนังอย่างช้าสุดไม่เกินไตรมาส 4/67 แต่จะมากหรือน้อย..เดี๋ยวค่อยมาดูกัน..!!??
เล็กเซียวหงส์