GULF ควบรวม “อินทัช” ตั้งบริษัทใหม่ กัลฟ์ถือหุ้นใหญ่ 60% “สิงห์เทล” ถือตรง ADVANC 23.31%

GULF ประกาศควบกิจการ INTUCH ตั้งบริษัทใหม่ NewCo โดยมี “กัลฟ์” ถือหุ้นใหญ่ 60% “สิงห์เทล” ถือตรง ADVANC 23.31% เป็นการปรับโครงสร้างของบริษัทที่เกี่ยวข้องให้เกิดประโยชน์สูงสุด คาดเสร็จไตรมาส 2/68


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ก.ค.67) บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าทราบถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2567 เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ในวาระสำคัญประกาศควบรวมกิจการระหว่าง 2 บริษัท

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างของบริษัทที่เกี่ยวข้องให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการดำเนินการในการบริหารจัดการและการลงทุนในอนาคต รวมทั้งเพื่อลดความซ้ำซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้นและต่อยอดโอกาสเติบโตในธุรกิจพลังงาน และโครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจดิจิทัล โดยทั้งสองบริษัทตกลงเข้าทำรายการ ดังนี้

1) การควบบริษัทระหว่าง GULF และ INTUCH และจัดตั้งเป็นบริษัทใหม่ (NewCo) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ NewCoจะมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว จำนวน 14,939,837,683 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 14,939,837,683 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

2) การทําคําเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (Conditional Voluntary Tender Offer หรือ VTO) ในหุ้นสามัญของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ ADVANC

และ 3) การทำ VTO ในหุ้นสามัญของบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM (รวมเรียกว่า “ธุรกรรมปรับโครงสร้างฯ”)

โดยเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 คณะกรรมการบริษัทของ GULF และ INTUCH ได้มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 3 ตุลาคม 2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติวาระที่เกี่ยวข้องในธุรกรรมปรับโครงสร้างฯ โดยในการควบรวมบริษัท จะมีอัตราการจัดสรรหุ้นใน NewCoให้แก่ผู้ถือหุ้นของ GULF และ INTUCH ดังนี้

1 หุ้น GULF ต่อ 1.02974 หุ้นใน NewCo

1 หุ้น INTUCH ต่อ 1.69335 หุ้นใน NewCo (ไม่รวมหุ้น 47.37% ใน INTUCH ที่ถือโดย GULF เนื่องจากได้รับการจัดสรรโดยตรงให้แก่ผู้ถือหุ้น GULF) ภายหลังจากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น และก่อนการควบรวมบริษัท จะมีการทำคำเสนอซื้อในช่วงเวลาประมาณไตรมาส 4 ปี 2567 – ไตรมาส 1 ปี 2568 ซึ่งประกอบด้วยดังนี้

1.การทำคำเสนอซื้อหุ้น 36.25% ในหุ้นสามัญของบริษัท ADVANC โดย GULF, INTUCH และ Singtel Strategic Investments Pte. Ltd. (SSI) และนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ที่ราคา 216.3 บาท/หุ้น เป็นมูลค่ารวมประมาณ 116,601 ล้านบาท และ

2.การทำคำเสนอซื้อหุ้น 58.86% ในหุ้นสามัญของบริษัท THCOM โดย GULF, บริษัท กัลฟ์ เอดจ์ จำกัด (บริษัทย่อยของ GULF), INTUCH และนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ที่ราคา 11.0 บาท/หุ้น เป็นมูลค่ารวมประมาณ 6,976 ล้านบาท

สำหรับการทำคำเสนอซื้อดังกล่าวเป็นการทำหน้าที่แทน NewCoภายหลังจัดตั้งบริษัทใหม่ด้วย technical obligation ทั้งนี้ ผลของการทำคำเสนอซื้อดังกล่าว จะไม่ทำให้อัตราการจัดสรรหุ้นใน NewCoข้างต้นเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรม คณะกรรมการบริษัท INTUCH พิจารณาในหลักการที่จะจ่ายเงินปันผลพิเศษจากกำไรสะสมของบริษัท จำนวน 4.5 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่า วันกำหนดสิทธิและการจ่ายเงินปันผลพิเศษ จะเกิดขึ้นภายหลังสิ้นสุดการรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้าน และก่อนธุรกรรมการควบบริษัทจะเสร็จสิ้น

โดยหลังจาก GULF ควบรวมกิจการ INTUCH แล้วทำการสวอปหุ้นคาดเสร็จภายในไตรมาส 2/68 พร้อมเปลี่ยนชื่อย่อเป็น NewCoดังนั้นโดยโครงสร้างการถือหุ้นบริษัทที่เกี่ยวข้องหลังธุรกรรมการปรับโครงสร้างจะอยู่ในลักษณะกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ GULF จะถือหุ้นใน NewCoสัดส่วน 59.72% ขณะที่ทาง Singtel จะเหลือถือหุ้นใน NewCoสัดส่วน 9.08% และมีผู้ถือหุ้นอื่นๆ สัดส่วน 31.20%

ขณะที่ในส่วนของ NewCoถือหุ้นใน ADVANC สัดส่วน 40.44% รวมถึงถือหุ้นใน Gulf Edge สัดส่วน 99.99% แล้วทาง Gulf Edge ถือหุ้นใน THCOM สัดส่วน 41.14% อย่างไรก็ตามทางด้าน Singtel จะถือหุ้นใน ADVANC สัดส่วน 23.31%

ด้าน นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF กล่าวว่าจะมีการควบรวม (amalgamation) GULF และ INTUCH และจะมีการจัดตั้งบริษัทใหม่ (NewCo) ในไตรมาส 2 ปี 2568เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา GULF ได้เข้าไปลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ INTUCH และ THCOM ได้ศึกษาแนวทางเลือกหลายแนวทางในการจัดโครงสร้างการถือหุ้นในกลุ่ม GULF และ ในกลุ่ม INTUCH รวมไปถึง ADVANC และ THCOM ให้เหมาะสม ซึ่งภายหลังจากได้มีการหารือในประเด็นต่างๆ เห็นว่าแนวทางการควบรวมบริษัทระหว่าง GULF ผู้นำด้านธุรกิจพลังงาน และ INTUCH ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใน ADVANC ผู้นำด้านโทรคมนาคมของประเทศไทย น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด เป็นประโยชน์กับทั้งสองบริษัทและผู้ถือหุ้นทุกฝ่าย

รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในการเป็นผู้นำในการขยายงานด้านธุรกิจพลังงานและธุรกิจโทรคมนาคม ทางด้านธุรกิจพลังงานบริษัทได้มุ่งมั่นที่จะขยายไปสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ส่วนในด้านธุรกิจโทรคมนาคมก็จะเน้นต่อยอดธุรกิจไปในธุรกิจดิจิทัลมากขึ้นตามที่ได้มีข่าวจากบริษัทเป็นระยะๆ

“การควบรวมดังกล่าวจะทำให้การบริหารจัดการของบริษัทภายในกลุ่มทั้งหมดมีความเข้มแข็งและชัดเจนมากขึ้น โดยการควบรวมกิจการในครั้งนี้เป็นธุรกรรมควบรวมขนาดใหญ่ และมีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งในประเทศไทยและในสิงคโปร์เกี่ยวข้องด้วยถึง 5 บริษัท ได้แก่ GULF, INTUCH, ADVANC THCOM และ Singtel เป็นธุรกรรมที่มีความซับซ้อนและละเอียดอ่อน ต้องคำนึงถึงผลกระทบในทุกๆ ด้าน และผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกๆ ฝ่าย ทั้งผู้ถือหุ้นรายย่อย ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ สถาบันการเงิน และกองทุนต่างๆ อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องรวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่ให้การสนับสนุนด้วยดีมาตลอด ทำให้การควบรวมบริษัทสามารถดำเนินการต่อไปได้ และบริษัทก็หวังว่าการควบรวมครั้งนี้น่าจะเป็นข่าวในเชิงบวกสำหรับตลาดทุนไทย และจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธุรกรรมปรับโครงสร้างฯ คาดว่าจะเสร็จสิ้นในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 โดยมี บล.บัวหลวง และ UBS AG Singapore Branch เป็นที่ปรึกษาในธุรกรรมนี้” นายสารัชถ์ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ หลังจากครบรวมกิจการของ GULF และ INTUCH จะส่งผลให้ ADVANC จะมาเป็นของคนไทยตามสัดส่วนการถือหุ้น

Back to top button