ส่อง 10 แบงก์ กวาดกำไร Q2 แตะ 6.3 หมื่นลบ. KBANK สูงสุด 1.3 หมื่นล้านบาท

เปิดโผ 10 แบงก์ โกยกำไรไตรมาส 2/67 รวมแตะ 6.3 หมื่นล้านบาท ดันกำไรงวด 6 เดือนแรกปี 67 แตะ 1.26 แสนล้านบาท ชู KBANK กำไรมากสุด 1.3 หมื่นล้านบาท


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมข้อมูลผลประกอบการไตรมาส 2/2567 และงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ทั้งหมด 10 แห่ง อาทิ KBANK, CIMBT, TTB, KTB, BBL,SCB, BAY, TISCO, LHFG และ KKP ประกาศงบการเงินออกมาครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อย โดยพบว่าผลประกอบการที่ออกมาเติบโตแข็งแกร่งเป็นส่วนใหญ่

สำหรับภาพรวมกำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ทั้ง 10 แห่ง ช่วงไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิรวม 62,911.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.07% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 61,636.68 ล้านบาท

ส่วนงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 มีกำไรสุทธิรวม  126,420.88  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.69% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 121,917.24 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และมีการตั้งสำรองหนี้ลดลง

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 12,652.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.09% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 10,994.27 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 26,138.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.26% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 21,735.33 ล้านบาท

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 668.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.08% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 538.75 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้การดำเนินงานเพิ่มขึ้น และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,294.57 ล้านบาท ลดลง 5.43% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,368.88 ล้านบาท

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,355.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.28% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 4,566.29 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลง

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,689.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.64% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,860.80 ล้านบาท

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 11,195.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.66% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 10,156.20 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 22,273.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.14% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 20,222.79 ล้านบาท

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 11,806.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.55% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 11,293.52 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลง

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 22,330.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.24% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 21,422.81 ล้านบาท

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 768.79 ล้านบาท ลดลง 45.41% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,408.29 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง และรายได้มิใช่ดอกเบี้ยปรับตัวลดลง

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,274.81 ล้านบาท ลดลง 34.88% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3,493.16 ล้านบาท

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,014.33 ล้านบาท ลดลง 15.62% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 11,868.13 ล้านบาท สาเหตุจากรายได้ค่าธรรมเนียม รวมถึงรายได้การลงทุนและการค้าลดลง ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 21,295.36 ล้านบาท ลดลง 6.86% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 22,863.50 ล้านบาท

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,208.93 ล้านบาท ลดลง 2.57% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 8,425.30 ล้านบาท สาเหตุจากการเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการตั้งสํารอง

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 15,751.54 ล้านบาท ลดลง 7.89% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 17,101.59 ล้านบาท

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,748.99 ล้านบาท ลดลง 5.66% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,853.89 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่เพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,482.01 ล้านบาท ลดลง 4.51% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,646.47 ล้านบาท

บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 491.42 ล้านบาท ลดลง 7.64% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 532.04 ล้านบาท สาเหตุมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิลดลง และการลดลงของกำไรจากเงินลงทุนและรายได้เงินปันผล

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 890.62 ล้านบาท ลดลง 25.90% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,201.91 ล้านบาท

นอกจากนี้ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า กำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 67 ของ KBANK คิดเป็น 58% จากประมาณการทั้งปี ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกำไรจาก FVTPL ซึ่งประมาณการค่อนข้างยาก ส่งผลให้ทางฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากสำรองฯ ที่ลดลงเป็นหลัก

ขณะที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 3/67 จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากสำรองฯที่ลดลง แต่มีโอกาสลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า เพราะฐานกำไรจากเงินลงทุนที่สูงในไตรมาสก่อนและ NIM ลดลง โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” KBANK ในราคาเป้าหมายที่ 155.00 บาท

ด้าน บล.กรุงศรี ระบุว่า คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 3/67 ของ TTB เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า มองว่าสินเชื่อรวม และ NIM ลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม TTB มีผลประโยชน์ทางภาษีที่เหลือจากการเลิกกิจการของบริษัทย่อยจำนวนมาก โดยคาดการณ์จะทยอยใช้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 2.05 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 2.2 บาท

ขณะเดียวกันทางฝ่ายวิจัยคาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 3/67 ของ SCB เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า เพราะรายได้รวม สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) และค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) คาดลดลง เพราะมีการใส่ค่าใช้จ่าย one -time ในไตรมาส 2/67

ดังนั้น ยังคงประมาณการปี 67 อยู่ที่ 4.50 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยยังคงคำแนะนำ “TRADING BUY” ให้ราคาเป้าหมายที่ 115 บาท เพราะมองมีจุดเด่นเรื่องปันผล dividend yield ประมาณ 8-10% ต่อปีซึ่งสูงสุดในกลุ่มธนาคาร

Back to top button