สังคมข่าวหุ้น

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (23 ก.ค.) ปิดที่ 1,301.54 จุด ลบ 15.60 จุด หรือ -1.18% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 40,319.60 ล้านบาท


ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (23 ก.ค.) ปิดที่ 1,301.54 จุด ลบ 15.60 จุด หรือ -1.18% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 40,319.60 ล้านบาท ราคาหุ้น EA ยังปรับตัวลงแรงและมีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ขณะที่หุ้นบิ๊กแคปราคาอ่อนตัวลงเล็กน้อย ได้แก่ DELTA และ SCB อย่างไรก็ตาม KTB ราคาดีดขึ้นมากว่า 4% สวนตลาดโดยรวม เนื่องจากประกาศงบไตรมาส 2/2567 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ทำให้โบรกเกอร์ปรับเพิ่มประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น

บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยผันผวน หวั่นกรณี EA และลุกลามไปยังกลุ่มแบงก์ที่ปล่อยสินเชื่อกลายเป็น Domino Effect ให้กรอบดัชนีที่ 1,300-1,350 จุด แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่ม ESG Rating เด่น (AAA) ได้แก่ ADVANC, BANPU, CPF, PTTGC และ SCC รวมทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุน DATA CENTER และ CLOUD SERVICE ได้แก่ GULF, ADVANC, TRUE, INSET และ ITEL

ช่วงนี้ท่านผู้อ่านที่น่ารักของเจ๊ อาจต้องทำใจให้แข็ง และนิ่งหน่อยนะเจ้าคะ เพราะนอกจากตลาดหุ้นจะขึ้น ๆ ลง ๆ ให้ลุ้นรายวัน ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ให้ต้องคอยตามอย่างใกล้ชิดด้วย เช่น วันนี้ (24 ก.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดีคุณสมบัตินายกฯ ซึ่งกูรูหลายสำนักคาดยังไม่ได้ข้อสรุป และมีโอกาสกำหนดวันวินิจฉัยคล้ายคดียุบพรรคก้าวไกล (7 ส.ค.) นอกจากนี้ วันนี้รองนายกฯ และ รมว.คลัง พร้อมด้วย รมช.คลัง จะแถลงข่าว “ดิจิทัลวอลเล็ต” ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เรามาลุ้นไปพร้อม ๆ กันนะเจ้าคะ

อีกเรื่องที่เจ๊ว่าต้องจับตาใกล้ชิด แม้จะเป็นปัจจัยจากต่างประเทศ ก็คือการเลือกตั้งของสหรัฐฯ หากว่า “ทรัมป์” เกิดได้รับชัยชนะการเลือกต้ัง นโยบาย American First จะกลับมาอีกครั้ง อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในเรื่องเศรษฐกิจและการค้าโลก ด้วยการตั้งกำแพงภาษี สกัดสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ซึ่งไทยเองก็อาจจะได้รับผลกระทบ โดยสหรัฐฯ อาจมองข้ามการลงทุนในไทย เพราะไทยมีการลงทุนจากจีนจำนวนมากซะด้วยสิเจ้าคะ

ปิดงบไตรมาส 2/2567 ไปเรียบร้อยเป็นกลุ่มแรกสำหรับหุ้นกลุ่มแบงก์ โดยทั้งหมด BBL และ KTB รายงานกำไรสุทธิมากกว่าคาดในไตรมาส 2/2567 มาจากกำไรจากเครื่องมือทางการเงิน และ NIM ที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ KKP มีกำไรสุทธิผิดคาดมากสุด เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนเครดิตและการหดตัวของสินเชื่อ และ SCB มีกำไรสุทธิพลาดจากที่คาด เนื่องจากค่าใช้จ่ายครั้งเดียวที่เกี่ยวข้องกับการปิด Robinhood บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) มองว่าสินเชื่อกลุ่มแบงก์มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องในขณะที่คุณภาพสินทรัพย์มีแนวโน้มอ่อนแอต่อเนื่อง ยังคงแนะนำ “Neutral” สำหรับกลุ่มแบงก์ โดยหุ้นเด่น คือ BBL และ KBANK เนื่องจากการมุ่งเน้นสินเชื่อองค์กร

หลังจากที่นักลงทุนหลายท่านเฝ้าติดตามการประกาศกำไรไตรมาส 2/2567 ของกลุ่มแบงก์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในสัปดาห์นี้ก็มีหุ้นขวัญใจมหาชนอีกหลายบริษัทที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือหุ้นของกลุ่ม บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) และบริษัทลูกอีก 2 บริษัท นั่นคือ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP), บมจ.เอสซีจี เดคคอร์ (SCGD) ซึ่งหุ้นทั้ง 3 ตัวนี้ นักวิเคราะห์ยังคงแนะนำซื้อนะเจ้าคะ

นับถอยหลังหุ้นไอพีโอคุณภาพคับแก้วอย่าง บมจ.ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) ผู้นำธุรกิจอาหารจากไก่ (Food Focus) ที่มุ่งเน้นผลิตและจำหน่ายไก่แปรรูปปรุงสุกเป็นหลัก พร้อมการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิต (Food Technology) ดีเดย์เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ บอกเลยทรงดีสุด ๆ เพราะคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งอยู่ในอุตสาหกรรมอาหารที่มีอัตราการขยายตัวดีต่อเนื่องทุกปี การเงินแกร่ง กำไรโต หนี้สิ้นต่อทุนต่ำ ปันผลสูง นโยบายจ่ายไม่ต่ำกว่า 40% แถมมีพันธมิตรทางธุรกิจแข็งแกร่ง โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มแบรนด์ที่มีชื่อเสียง แบรนด์ระดับนานาชาติ หุ้นเด็ดพื้นฐานดี ต้องมีติดพอร์ตกันไว้แล้วนะเจ้าคะ

ดวงดี

Back to top button