FM เทรดวันแรก! โบรกชี้กำไร 3 ปี โตเฉลี่ย 46% เคาะเป้าสูง 8.90 บาท
FM ลงสนามเทรดวันแรก! โบรกคาดกำไรปี 67-69 เติบโตเฉลี่ย (CAGR) ที่ 46% จากการขยายกำลังการผลิตไก่ชำแหละ และขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุก โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 8.30-8.90 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลักทรัพย์ บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM ได้เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ภายใต้กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม
สำหรับ FM มีทุนชำระแล้วหลังการเสนอขาย IPO 1,975.66 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2 บาท บริษัทเสนอขายหุ้น IPO จำนวนรวม 376.96 ล้านหุ้นประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 176.96 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกระหว่างวันที่ 15-17 กรกฎาคม 2567 ในราคาหุ้นละ 5.40 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,080 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 5,334.27 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 17.42 เท่า พิจารณาจากกำไรสุทธิในช่วง 12 เดือนย้อนหลังซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 306.22 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญหลังเสนอขาย คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น (Fully Diluted EPS) เท่ากับ 0.31 บาท โดยมี บริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
โดยบริษัทประกอบธุรกิจถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายไก่ชำแหละ และไก่แปรรูป โดยมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุกเป็นหลัก โครงสร้างทางธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่การร่วมดูแลการเลี้ยงไก่เนื้อที่มีคุณภาพผ่านเครือข่ายเกษตรพันธสัญญา (Contract Farm) ของบริษัท จนถึงการเชือดและชำแหละไก่เพื่อให้ได้ชิ้นส่วนไก่สด ชิ้นส่วนไก่แช่เย็น และชิ้นส่วนไก่แช่แข็งเพื่อจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ
ด้าน นายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FM เปิดเผยว่า การระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุนของบริษัทในการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต อีกทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนและประชาชนทั่วไปได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของบริษัท โดยเชื่อมั่นว่าความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุน ประกอบกับประสบการณ์ความชำนาญในการดำเนินธุรกิจของทีมผู้บริหารที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมการผลิตและจำหน่ายไก่ชำแหละกว่า 30 ปี จะเสริมให้บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
อย่างไรก็ดี FM มีผู้ถือหุ้นหลักภายหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวดุษฎีโหนด ร้อยละ 51.84 และนอร์ทเฮเว่น ไทย ไพรเวท อิควิตี้ โดมินิค คอมปานี (ฮ่องกง) ร้อยละ 10
ทั้งนี้ FM มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักเงินสำรองต่าง ๆ ทุกประเภท ทั้งนี้บริษัทจะพิจารณาการจ่ายเงินปันผลโดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นเป็นหลัก และต้องไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานตามปกติของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ
บล.ทิสโก้ คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 2/67 ของ FM ในเบื้องต้นอยู่ที่ 160 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากไตรมาสก่อนหน้าโดยคาดการณ์ว่ารายได้เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อนหน้าจากกลุ่มไก่แปรรูป หรือ CAV เป็นหลัก และอัตรามาร์จิ้นคาดเพิ่มขึ้นจากสัดส่วนรายได้ไก่แปรรูปที่มีอัตรามาร์จิ้นสูงกว่าเพิ่มขึ้น
โดยคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิในปี 67-69 จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 46% ต่อปี และคาดการณ์รายได้จากการขายที่ดีขึ้นโตเฉลี่ยปีละ 15% จากการขยายกำลังการผลิตไก่ชำแหละ และขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุก รองรับตลาดส่งออกและลูกค้าปัจจุบัน รวมถึงเพิ่มโอกาสสำหรับลูกค้ารายใหม่มากขึ้น ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ข้าวโพดและกากถั่วเหลือง มีแนวโน้มลดลงช่วยเพิ่มอัตรากำไรสูงขึ้น ทั้งนี้ให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 8.30 บาท
บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ให้ราคาเหมาะสมที่ 8.90 บาท ชูเป็นผู้ผลิตไก่แปรรูปปรุงสุกที่มีศักยภาพเติบโตสูงจากการมีฐานธุรกิจแข็งแกร่ง อัตรากำไรสูงและผันผวนต่ำ ประเมิน 3 ปีข้างหน้ากำไรโตแรงเฉลี่ย 30% ต่อปี มีอัพไซด์ จากธุรกิจที่นำผลิตภัณฑ์พลอยได้จากการผลิตไก่มาเพิ่มมูลค่า เช่น ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง