AQUA ผนึก “เครือสิงห์-ใบหยก” ดัน FAB เรือธงโกยรายได้ปี 68 แตะ 2 พันล้านบาท
AQUA ผนึก “เครือสิงห์-ใบหยก” ดัน FAB เรือธงโกยรายได้ปี 68 แตะ 2 พันล้านบาท วางเป้าเพิ่มสัดส่วนธุรกิจอาหาร 60-70% ฟาก “ฉาย บุนนาค” ย้ำร่วมทุน 2 พันธมิตรใหญ่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจอาหารช่วยสร้าง “ซินเนอร์ยี่” ร่วมกันและผลักดันให้กลุ่ม AQUA ในฐานะ Investment Company โกยรายได้ธุรกิจอาหารเข้าเป้าตามแผน
นาย ฉาย บุนนาค รักษาการประธานกรรมการบริหาร บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA กล่าวในงานเปิดตัวบริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง จำกัด หรือ FAB ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันของ 3 บริษัทผู้มี passion ด้านอาหาร ได้แก่ F = Food Factors บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด, A = AQUA และ B = คุณเบียร์ หรือนายปิยะเลิศ ใบหยก รองประธานกลุ่มโรงแรมใบหยก,CEO บริษัท บีเอ็นเอฟ โฮลดิ้ง จำกัด และ FAB
โดยโครงสร้าง FAB ภายใต้ความร่วมมือกันของ 3 บริษัทผู้มี passion ด้านอาหารที่จะร่วมกันสร้าง Synergy ธุรกิจที่แข็งแรงในอนาคตประกอบด้วยย AQUA ถือหุ้นสัดส่วน 51% ,บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด ในเครือ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จํากัดสัดส่วน 40% และนายปิยะเลิศ ใบหยกสัดส่วน 9% โดยมีทุนจดทะเบียน 2,500 ล้านบาท ซึ่ง AQUA ลงทุน 1,275 ล้านบาท ซึ่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และจากการขายเงินลงทุนบางส่วน รวมทั้งกู้เงินจากสถาบันการเงิน
สำหรับ FAB ได้รวม 8 แบรนด์อาหารดัง ได้แก่ Santa Fe, Santa Fe Easy, เหม็ง แซ็ปนัว จำนวน 142 สาขา, Sekai no Yamachan จำนวน 10 สาขา, ส้มตำ เจ๊แดง สามย่าน จำนวน 42 สาขา, ราเมงเดส, อิคโคฉะ ราเมน และ อุชิดายะ ราเมน จำนวนรวม 10 สาขา รวม 204 สาขา มาไว้ภายใต้ร่มคันเดียวกัน โดยกระบวนการจัดโครงสร้างเพื่อเป็นไปตามแผนข้างต้นจะมีหลายขั้นตอน และคาดจะแล้วเสร็จภายใน ต.ค.67
“FAB รวม 8 แบรนด์อาหารดัง ได้แก่ Santa Fe, Santa Fe Easy, เหม็ง แซ็ปนัว, Sekai no Yamachan, ส้มตำเจ๊แดง สามย่าน, ราเมงเดส, อิคโคฉะ ราเมน และ อุชิดายะ ราเมน มาไว้ภายใต้ร่มคันเดียวกัน ด้วยทั้ง 3 พาร์ทเนอร์ต่างมีเป้าหมายเดียวกันและมีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เรามองว่าการทำ Synergy ร่วมกันในครั้งนี้จะผลักดันให้กลุ่ม AQUA ในฐานะ Investment Company สามารถสร้างแหล่งรายได้จากประเภทธุรกิจอาหารได้มากขึ้น และมั่นใจว่าการได้ร่วมงานกับทีมที่มีประสบการณ์ รวมถึงได้รับเกียรติจากคุณเบียร์ ปิยะเลิศ ใบหยก หรือ เบียร์-ใบหยก มานำทัพเป็น CEO ของ FAB เอง จะทำให้ FAB เป็นส่วนผสมที่ลงตัว ถ้าเทียบกับอาหารจานหนึ่งแล้ว ผมคอนเฟิร์มว่าจะต้องเป็นเมนูที่อร่อย จัดจ้าน ทานได้ไม่เบื่อ และได้การการันตีรางวัลจากนักทานอย่างแน่นอน”
นายชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ AQUA กล่าวว่า ภายหลังการร่วมทุนดังกล่าวคาดว่ารายได้ในส่วนของ 8 แบรนด์อาหารดังจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 4/67 ประมาณ 300-400 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มรายได้ AQUA ปีนี้วางเป้าแตะระดับ 1,000 ล้านบาท พร้อมวางเป้ารายได้ปี 68 แตะระดับ 2 พันล้านบาท โดยมาจากธุรกิจ FAB ประมาณ 1,600-1,700 ล้านบาท นอกจากนี้ปี 68 บริษัทมีแผนปรับสัดส่วนรายได้ธุรกิจอาหาร 60-70%, ธุรกิจคลังสินค้า 15% และธุรกิจโลจิสติกส์ 15% จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากการบริหารธุรกิจการลงทุนต่าง ๆ เป็นหลัก
“AQUA เข้าสู่วงการอาหาร โดยเริ่มจากธุรกิจราเมง ซึ่งคือ “Ramen Desu” (ราเมงเดส) ที่เรามีอยู่เดิม ซึ่งปัจจุบันเรามีอยู่ 5 สาขา และมองว่าธุรกิจอาหารเป็นธุรกิจที่มั่นคง เติบโตตามการบริโภคอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอาหารเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต และมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจต่ำกว่า เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ แบรนด์ร้านอาหารที่ลงทุนครั้งนี้ เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ได้รับการปลุกปั้นมาอย่างดีจากทั้ง 2 พันธมิตรอีกทั้งทุกแบรนด์ยังเป็นที่รู้จัก เปิดมายาวนาน ซึ่งจะสามารถส่งเสริมในแต่ละส่วนของกันและกันได้ และจะสามารถนำสิ่งที่ดีให้แก่ผู้บริโภคได้” นายชัยพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม
นายชัยพิพัฒน์กล่าวอีกว่า ล่าสุดวานนี้(23 ก.ค.67)บริษัทได้มีการชำระคืนหนี้หุ้นกู้ชุดเดิมมูลค่า 629 ล้านบาทครบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสะท้อนสถานะการเงินบริษัทแข็งแกร่งและตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนอย่างชัดเจน นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้ชุดใหม่มูลค่า 600 ล้านบาท ภายในเดือน ส.ค.นี้ คาดอัตราดอกเบี้ยราว 7-7.25% โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ด้านนายภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า “แนวทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบุญรอดฯ ตลอดระยะเวลากว่า 90 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม คือ “คุณภาพ” ต้องดีที่สุดเท่านั้น เพื่อส่งมอบสินค้าคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค บริษัทฯมองเห็นโอกาสในการพัฒนายกระดับสินค้าและบริการในกลุ่มร้านอาหาร ภายใต้บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัดในเครือ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จํากัด ให้ดียิ่งกว่าเดิม จึงร่วมมือกับ AQUA และคุณปิยะเลิศ ใบหยก หรือเบียร์ ใบหยก ซึ่งเป็นทั้งรองประธานกลุ่มใบหยก และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท บีเอ็นเอฟ โฮดิ้ง จำกัด โดยจะนำความถนัดและจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาผนึกกำลังกัน เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการ รวมถึงประสบการณ์ที่ดี ให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุดนั่นเป็นที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้”
ขณะที่นายปิยะเลิศ ใบหยก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CEO บริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง จำกัด (FAB) เผยว่า “กลุ่มเป้าหมายหลักของ FAB จะเน้นที่กลุ่ม Young generation ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลมากที่สุดในตลาดปัจจุบัน เพราะมีการตัดสินใจที่เฉียบขาด กล้าที่จะใช้จ่ายกับสินค้าและการบริการที่คิดว่าตอบโจทย์ความต้องการของตัวเอง และในขณะเดียวกันก็คงรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ด้วย เราพยายามหาจุดเด่นของตัวเอง เพื่อเจาะเข้าถึงตัวลูกค้าได้และต้องเป็นผู้นำทุกเทรนด์ ที่สำคัญคือความจริงใจต้องมาก่อน เราจึงจะสามารถครองใจผู้บริโภคได้”
ด้านนายวรภัทร ชวนะนิกุล Chief Financial Officer บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด และกรรมการ บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันฟู้ด แฟคเตอร์ มีร้านอาหาร 3 แบรนด์หลัก ที่ให้บริการ มายาวนานจนได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ได้แก่ ซานตาเฟ่, ซานตาเฟ่ อีซี่ และเหม็ง แซ็ปนัว ซึ่งแต่ละแบรนด์มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเฉพาะ โดยมีความเชี่ยวชาญอาหารตะวันตกอย่างสเต๊กและอาหารอีสานซึ่งมีตลาดที่ชัดเจนอยู่แล้ว การรวมกันในครั้งนี้จะช่วยต่อยอดการพัฒนาให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยยังคงรักษาหัวใจสำคัญในด้านคุณภาพของวัตถุดิบ และรสชาติความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์”