DELTA บวก 7% นำกลุ่ม “อิเล็กฯ” หลังโชว์งบ Q2 โต 40%
DELTA บวก 7% รับผลประกอบการไตรมาส 2/67 เติบโต 40% ส่งผลให้เซนติเมนท์เชิงบวกต่อ KCE-HANA-CCET ปรับตัวขึ้นตาม คาดว่างบการเงินจะออกมาเติบโตตามเดลต้าเช่นกัน หลังยอดขายพุ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 ก.ค.67) ราคาหุ้น บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ณ เวลา 10:20 น. อยู่ที่ระดับ 99.25 บาท บวกไป 6.50 บาท หรือ 7.01% สูงสุดที่ระดับ 103.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 98.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.97 พันล้านบาท
บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA อยู่ที่ระดับ 47.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือ 3.26% สูงสุดที่ระดับ 48.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 47.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 210 ล้านบาท
บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE อยู่ที่ระดับ 45.00 บาท บวกไป 1.00 บาท หรือ 2.27% สูงสุดที่ระดับ 46.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 45.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 200 ล้านบาท
บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CCET อยู่ที่ระดับ 3.82 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือ 4.95% สูงสุดที่ระดับ 3.84 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.78 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 98.98 ล้านบาท
สำหรับราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาโดยเฉพาะ DELTA นำทีมกลุ่ม ตอบรับข่าว นายเจิ้ง อัน กรรมการ DELTA แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ ไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 อยู่ที่ 6,565.02 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนทำได้ 4,668.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 40.6% เทียบไตรมาส 2/2566 อีกทั้งถือเป็นสถิติสูงสุดรายไตรมาสนับเป็นประวัติการณ์
โดยเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 5,819 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 13.9% เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 9.8% ไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากยอดขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูลและยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น รวมทั้งประสิทธิภาพควบคุมต้นทุนวัตถุดิบ และการจัดการสินค้าคงคลัง ทั้งนี้รวม 6 เดือนแรกปี 2567 ทำกำไรสุทธิได้ 10,872.53 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนทำได้ 8,282.48 ล้านบาท
ขณะที่รายได้จากการขาย และรายได้จากการให้บริการในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 41,772 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูงซึ่งได้รับแรงหนุนจากโซลูชันการจัดการพลังงานประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับการปรับใช้เทคโนโลยี Al ที่ทันสมัยในศูนย์ข้อมูลและแอปพลิเคชันคอมพิวเตอร์ที่เร่งความเร็วในอุตสาหกรรมและบริการต่าง ๆ จึงกระตุ้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ให้เติบโต
ขณะที่บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กำไรสุทธิไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 6.57 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 52% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวม FX gain 379 ล้านบาท และรายได้ชดเชยผิดสัญญาทางการค้า 252 ล้านบาท จะมีกำไรปกติ 5.93 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นกำไรนิวไฮ ดีกว่าทางฝ่ายวิจัยคาดการณ์ 18% และดีกว่าตลาดคาด 24%
ขณะที่รายได้สกุล USD เติบโตดี 6.7% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มาจากกลุ่ม EV โดยเฉพาะลูกค้าฝั่งยุโรป, กลุ่ม Data center โตเล็กน้อย และรายได้ในอินเดียโตสูง ส่วนรายได้จาก AI เราคิดว่าโตสูงอย่างมีนัยสำคัญ แต่บริษัทยังไม่เปิดเผยตัวเลข เพียงแต่ระบุว่ามีสัดส่วนยังไม่มากเพียง Single digit
ด้านอัตรากำไรขั้นต้นทำจุดสูงสุดรอบ 34 ไตรมาสอยู่ที่ 26.9% ส่วนหนึ่งมาจากการกลับรายการตั้งสำรองสินค้าคงเหลือที่ตั้งไว้พอควรในหลายไตรมาสที่ผ่านมา พอลูกค้ามีคำสั่งซื้อ และนำมาผลิต จึงต้องการกลับรายการ ทั้งนี้บริษัทยังตั้งเป้าที่ 23-24% ตามเดิม คาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นครึ่งหลังของปี 67 จะลดลงกลับสู่ระดับปกติ
ส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ยังสูงระดับ 12.9% สูงขึ้นจาก 11.2% ในไตรมาส 1/67 และ 10.6% ในไตรมาส 2/66 เพราะยังมีค่าใช้จ่าย Royalty และบริการด้านเทคนิคจ่ายให้กับ Delta Taiwan ไตรมาสนี้อยู่ที่ 2.27 พันล้านบบาท เพิ่มขึ้น 26% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 113% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 5.4% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นจาก 3% ในไตรมาส 2/66
นอกจากนี้กำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 67 สูงถึง 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 57% ของกำไรทั้งปี ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/67 ยังดีต่อเพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น
อย่างไรก็ดี ทางฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างปรับเพิ่มกำไรปี 67 ขึ้น 15% และในปี 67 ขึ้น 27% และจะปรับใช้เป้าปี 68 อาจอยู่ที่ 100 บาท (ด้วย PE สูงสุดในกลุ่มที่ 45 เท่า) โดยแนะนำเก็งกำไร และคาดกำไรไตรมาส 2/67 ของบริษัทอื่นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จะออกมาดีเช่นกัน โดยแนะนำ “ซื้อ” KCE ราคาเป้าหมาย 50 บาท เตรียมประกาศงบ 13 ส.ค.67 ส่วน HANA ให้ราคาเป้าหมาย 50 บาท เตรียมประกาศงบ 14 ส.ค.67