คัด 15 อันดับ หุ้นกลุ่ม SET “ปรับตัวขึ้น-ลง” เดือน ก.ค.! MONO ทะยาน 156%
เปิด 15 อันดับหุ้น SET ราคา “พุ่ง-ดิ่ง” แรงมากที่สุดในรอบ 1 เดือนกรกฎาคม MONO ทะยานสูงสุด 156% ลุ้นรายได้กลับเติบโตแกร่ง ด้าน EA ร่วงสูงสุด 67.86% หลังผู้บริหารและกรรมการถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษทุจริต อีกทั้งมีการเลื่อนชำระหุ้นกู้
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจกลุ่มหุ้น SET ที่ราคาปรับตัวขึ้นแรงและราคาปรับตัวลดลงแรงรอบเดือนกรกฎาคมปี 67 มานำเสนอ โดยเปรียบข้อมูลราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 28 มิ.ย.67 – 31 ก.ค.67 ซึ่งได้คัดเลือกมา 15 อันดับแรกของกลุ่มที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว
สำหรับหุ้นที่ปรับตัวแรงขึ้นมาทั้งหมด 15 หุ้น ประกอบด้วย บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO, บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ IT, บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) หรือ SSC, บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) หรือ FN, บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ SAMTEL, บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ AURA, บริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ RABBIT, บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA, บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG, บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ BJCHI, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM, บริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ SKE, บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH, บริษัท ไทยฟิวเจอร์อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TFI
สำหรับอันดับที่ 1 ที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 เดือน คือ MONO โดยในวันที่ 31 ก.ค.67 ราคาหุ้นปิดตลาดที่ระดับ 1.41 บาท คิดเป็นการปรับตัวขึ้น 156.36% จากระดับ 0.55 บาท ณ ราคาหุ้นปิดตลาดวันที่ 28 มิ.ย.67 โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาคาดจะมาจากแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 67 รายได้จะกลับมาเติบโตกว่าปี 66 คาดการณ์รับธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่ง MONOMAX ในปี 67 ตั้งเป้าหมายยอดสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านราย คาดว่าจะมียอดสมาชิกอยู่ที่ 1 ล้านราย
ขณะที่ราคาหุ้น DELTA ปรับตัวขึ้นตามกันมา โดยในวันที่ 31 ก.ค.67 ราคาหุ้นปิดตลาดที่ระดับ 102 บาท คิดเป็นการปรับตัวขึ้น 22.52% จากระดับ 83.75 บาท ณ ราคาหุ้นปิดตลาดวันที่ 28 มิ.ย.67 โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาคาดจะมาจากแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/67 เติบโตแข็งแกร่ง เป็นผลมาจากรายได้จากการขายและรายได้จากการให้บริการของ Power Electronics ซึ่งได้รับแรงหนุนจากโซลูชันการจัดการพลังงานประสิทธิภาพสูงเพื่อรองรับการปรับใช้เทคโนโลยี AI ที่ทันสมัยในศูนย์ข้อมูลและแอปพลิเคชันคอมพิวเตอร์ที่เร่งความเร็วในอุตสาหกรรมและบริการต่างๆ จึงกระตุ้นการเติบโตของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์
ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่าปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 120 บาทจากเดิม 95 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” DELTA เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการในครึ่งหลังปี 2567 จะสดใส สะท้อนการปรับเพิ่มประมาณการกำไร และ การเพิ่มตัวคูณหุ้นจากเป้า PER ที่ 55 เท่า เป็น 62 เท่า
สำหรับหุ้นที่ปรับตัวลงแรง 15 หุ้น ประกอบด้วย บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA, บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX, บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC, บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY, บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME, บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD, บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC, บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ACG, บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO, บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT, บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML, บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS, บริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SDC, บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC, บริษัท เคดับบลิวไอ จำกัด (มหาชน) หรือ KWI
สำหรับอันดับ 1 ที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 1 เดือน คือ EA โดยในวันที่ 31 ก.ค.67 ราคาหุ้นปิดตลาดที่ระดับ 3.60 บาท คิดเป็นการปรับตัวลง 67.86% จากระดับ 11.20 บาท ณ ราคาหุ้นปิดตลาดวันที่ 28 มิ.ย.67 สาเหตุจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีมติกล่าวโทษกรรมการและผู้บริหาร EA รวม 3 ราย เนื่องมาจากการกระทำการทุจริตการจัดซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศหรือทุจริตการจัดซื้อโปรแกรมซอฟต์แวร์จำนวน 3,465.64 ล้านบาท
ประกอบกับ บลจ.แอสเซท พลัส แจ้ง EA ขอเลื่อนไถ่ถอนตั๋วแลกเงินระยะสั้น 2 ชุด มูลค่า 700 ล้านบาท ที่ครบจ่าย 23 ก.ค.67 และ 1 ส.ค.67 ไปเป็นวันที่ 9 ส.ค.67 เสนอจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม 7% ต่อปี รวมจำนวนดอกเบี้ยชำระ 1.55 ล้านบาท
ขณะที่ล่าสุดเตรียมดักเก็บรายได้ค่าไฟของ EA ตามสัญญา PPA แทนชำระคืนหนี้ตั๋วแลกเงินระยะสั้น 1,160 ล้านบาท พร้อมยืดเวลาให้อีก 3 ปี เพื่อทยอยจ่ายเป็นรายเดือน
ทั้งนี้ บล.หยวนต้า ระบุว่าเบื้องต้นคาดการณ์กำไรปกติไตรมาส 2/67 ของ EA ที่ระดับ 800-900 ล้านบาท ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้าจากปริมาณการส่งมอบรถ EV ที่คาดทรงตัวอยู่ในระดับ 300-350 คัน โดยความเชื่อมั่นของแบรนด์ NEX ที่ลดลงส่งผลให้ลูกค้ามีการชะลอคำสั่งซื้อ EV ออกไป แต่ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจากผลกระทบของ Adder ที่หมดอายุ
โดยหากมองไปช่วงไตรมาส 3/67 คาดการณ์ผลประกอบการจะยังคงทำได้เพียงทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้าต่อเนื่อง ตามปริมาณการส่งมอบรถ EV ที่ยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งบริษัทฯ คาดปริมาณการส่งมอบรถจะฟื้นตัวหลังการเพิ่มทุนรอบที่ 1 ของ NEX เสร็จสิ้น) ขณะที่คาดกำไรปกติลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนตามผลกระทบของ Adder ที่หมดอายุและการส่งมอบรถ EV ที่ลดลงจากฐานที่สูงในปีก่อน
สำหรับราคาหุ้น NEX ปรับตัวตามลงมา โดยในวันที่ 31 ก.ค.67 ราคาหุ้นปิดตลาดที่ระดับ 0.77 บาท คิดเป็นการปรับตัวลง 54.17% จากระดับ 1.68 บาท ณ ราคาหุ้นปิดตลาดวันที่ 28 มิ.ย.67 สาเหตุรับเซนติเมนต์เชิงลบจากหุ้น EA หลังก.ล.ต. มีมติกล่าวโทษกรรมการและผู้บริหาร EA รวม 3 ราย พร้อมถูกออกจากรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings จากขาดคุณสมบัติตามเกณฑ์ และถูกขึ้นเครื่องหมาย H อีกทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ของ EA ชั่วคราว
ด้าน บล.บัวหลวง ระบุคาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังปี 67 ของ NEX แม้จะมีความท้าทายดังที่กล่าวมาข้างต้น แต่คาดว่าตัวเลขในครึ่งหลังของปี 67 จะดีกว่ามาก บริษัทยังคงคาดว่าจะส่งมอบรถได้ 5,556 คันในปีนี้ จำนวนจุดชาร์จควรเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับความต้องการและกำลังมีแผนเปิดตัวรถ EV ระยะไกลและเฉพาะทาง เช่น รถขยะและรถสำหรับเหมืองแร่ NEX ทุ่มความพยายามอย่างมากในการประมูลโครงการรถขยะ EV ในกรุงเทพฯ รวมถึงการส่งมอบรถทดสอบด้วย ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทมีการเติบโตที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเนื่องจากมีกำหนดการส่งมอบและอัตรากาไรราบรื่นยิ่งขึ้นเมื่อมีสัญญาอยู่ในมือ Key