กูรูแนะหุ้นอสังหาฯ ปันผลสูง-งบฯเด่นSET บ่ายลุ้นปะทะแนวต้าน 1,287 จุด
SET ช่วงเช้าปรับขึ้นตามตลาดหุ้นเอเชีย ขานรับแรงหนุนราคาน้ำมันปรับขึ้น รวมถึงธนาคารกลางจีน และญี่ปุ่นอัดฉีดเงินเสริมสภาพคล่องเพื่อพยุงเศรษฐกิจ บ่ายนี้คาดว่าดัชนียังยืนบวกได้ แต่การปรับตัวอาจจะไม่แรงเท่าช่วงเช้า หรืออาจทำได้เพียงทรงตัวจากช่วงเช้า พร้อมให้แนวต้าน 1,287 จุด แนวรับ 1,275 จุด
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า ( 25 ม.ค.) ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาค เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงธนาคารกลางของจีนและญี่ปุ่นใช้นโยบายการเงินในการอัดฉีดเงินเข้าระบบ ช่วยพยุงสภาพคล่องและเศรษฐกิจในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลเชิงบวกต่อตลาดอีกแรง
นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ตลาดหุ้นไทยยังสามารถยืนอยู่ในแดนบวกได้ แต่ไม่แรงเท่าช่วงเช้าหรืออาจทำได้เพียงทรงตัวจากช่วงเช้าเท่านั้น เนื่องจากปัจจัยที่ส่งผลต่อการลงทุนยังคงเป็นปัจจัยเดิมจากช่วงเช้า พร้อมให้แนวต้าน 1,287 จุด แนวรับ 1,275 จุด ขณะที่ แนะนำ “ซื้อ” PS ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 38.00 บาท
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้าปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค โดยมีปัจจัยหนุนมาจากราคาน้ำมันที่เริ่มมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น และการที่ธนาคารกลางของจีนและญี่ปุ่นใช้นโยบายการเงินในการอัดฉีดเงินเข้าระบบ ช่วยพยุงสภาพคล่องและเศรษฐกิจในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลเชิงบวกต่อตลาดอีกแรงหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม มองว่าสัปดาห์นี้ดัชนีมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปสู่ระดับ 1,300 จุดได้ หาก Sentiment ตลาดยังเป็นอยู่ในเชิงบวกจากปัจจัยปัจจัยภายนอกที่หนุนตลาดหุ้นไทอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ยังถือว่าอยู่ในฝั่งการซื้ออีกด้วย
ส่วนแนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดว่ายังสามารถยืนอยู่ในแดนบวกได้ แต่ไม่แรงเท่าช่วงเช้าหรืออาจทำได้เพียงทรงตัวจากช่วงเช้าเท่านั้น เนื่องจากปัจจัยที่ส่งผลต่อการลงทุนยังคงเป็นปัจจัยเดิมจากช่วงเช้า พร้อมให้แนวต้าน 1,287 จุด แนวรับ 1,275 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 25 ม.ค.) ว่า SET ปรับตัวขึ้นต่อทดสอบแนวต้าน 1,280 จุด โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1,300-1,320 จุด ทั้งนี้ มองหุ้นใหญ่เป็น “กลุ่มนำ” การปรับสูงขึ้นของ SET
ขณะที่ แนะนำ “ซื้อ” PS ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 38.00 บาท และระยะสั้นที่ 25.75/29.25 บาท จาก 1) คาดการณ์รายได้ และกำไรไตรมาส 4 ปี 58 ออกมาดี เนื่องจากผู้บริโภคเร่งโอนบ้านหลังมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ในเดือน พ.ย.
2) การปรับ Dividend Policy เป็น “ไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ” โดยจะเริ่มตั้งแต่ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังปี 58 ทำให้คาดว่า PS จะจ่ายเงินปันผลประมาณ 1 บาทต่อหุ้น ในงวดครึ่งปีหลังปี 58 หรือคิดเป็นปันผล 4% และคาดว่าจะทำให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 59 เพิ่มขึ้นเป็น 1.70 บาทต่อหุ้น หรือ 6.8% สูงที่สุดในกลุ่มอสังหาฯ
และ 3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัว 3 เดือนติดต่อกัน ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมักเป็น Leading Indicator (ตัวชี้วัดนำ) ต่อกลุ่มอสังหาฯ ทำให้คาดว่ากลุ่มอสังหาฯ จะค่อยๆ ปรับสูงขึ้นในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้า
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,426.35 ล้านบาท ปิดที่ 228.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,458.21 ล้านบาท ปิดที่ 52.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,146.96 ล้านบาท ปิดที่ 52.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 954.34 ล้านบาท ปิดที่ 2.98 บาท ลดลง 0.02 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 919.40 ล้านบาท ปิดที่ 424.00 บาท เพิ่มขึ้น 14.00 บาท
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์