OR ราคานิวโลว์

วันศุกร์ที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา

ราคาหุ้น บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR ลงมาจุดต่ำสุด 14.00 บาท และถือเป็นระดับ “นิวโลว์” นับจากวันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ก่อนหน้านี้ เคยเขียนเกี่ยวกับหุ้นโออาร์ไว้หลายครั้ง

และทุกครั้งจะบอกไว้ว่า หากราคาลงมาต่ำกว่า 18.00 บาท ที่เป็นราคาไอพีโอ

นั่นมีโอกาสที่ราคาจะปรับลงยาว

เพราะสัญญาณทางเทคนิคเสีย ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยหนุนแบบที่ต้องร้อง “ว้าว…” เข้ามาช่วยหนุน

แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

ปัจจุบัน แม้ว่า วอลุ่มเทรดของหุ้นโออาร์จะไม่ได้มากเหมือนเมื่อครั้งเข้าเทรดในช่วงแรก ๆ

แต่ยังถือว่าเป็นหุ้นที่นักลงทุน (รายย่อย) ให้ความสนใจอยู่

สังเกตได้จากห้องโซเชียลที่เกี่ยวกับหุ้น จะมีการตั้งกระทู้เข้ามาพูดคุยถึงหุ้นพลังงานตัวนี้

ขณะที่จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย ข้อมูล ณ 27 ก.พ. 2567 ยังสูงถึง 3.03 แสนคน และน่าจะเป็นหุ้นที่มีนักลงทุนรายย่อยถือหุ้นมากสุดเมื่อเทียบกับหุ้นอื่น ๆ ในตลาดฯ

โออาร์เพิ่งจะแจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ออกมา

มีกำไรสุทธิ 2,537 ล้านบาท ลดลง 32% จากไตรมาสก่อนหน้า

และลดลง 8% จากงวดเดียวกันของปี 2566

แม้ว่ากลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้นจากทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ รวมถึงกลุ่มธุรกิจ Global

ทว่า กลุ่มธุรกิจ Mobility ลดลง จากกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรลดลง 0.20 บาท

ตามทิศทางราคาเบนซินและดีเซลที่ปรับตัวลง

และอาจจะรวมถึงความเสี่ยงด้านนโยบายด้านพลังงานที่รัฐบาลเข้ามาควบคุมไม่ให้ค่าการตลาดสูงเกินไป

อย่างที่รับทราบกันว่า ธุรกิจน้ำมัน ยังคงสร้างรายได้หลักให้กับโออาร์

ขณะที่ธุรกิจน้ำมันถูกควบคุมการสร้างกำไรจากภาครัฐอย่างเข้มงวด

จึงเป็นไปไม่ได้เลย หากโออาร์จะมีกำไรเติบโตจากธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน เราจึงเห็นความพยายามที่โออาร์จะขยายธุรกิจด้านนอนออยล์มากขึ้น

แต่ธุรกิจนอนออยล์ของโออาร์ที่มีการขยายออกไปนั้น

ยังไม่ถึงกับเป็น “บิ๊กโปรเจกต์” ที่จะดันตนเองขึ้นมาเป็น “มหาอำนาจ” ด้านค้าปลีกของประเทศไทย

ประกอบการธุรกิจนอนออยล์ที่โออาร์ลงทุนไปก่อนหน้านี้ และกำลังลงทุนเพิ่ม

ต่างต้องใช้เวลาค่อนข้างยาวนานกว่าจะเก็บดอกผลได้เต็มที่

นั่นจึงเป็นที่มาของคำตอบว่า เหตุใดราคาหุ้น OR ถึงราคาลงต่อเนื่อง และ ณ ขณะนี้เองก็ยังมองไม่เห็นว่าจุดต่ำสุดนั้นจะอยู่ตรงไหน

นักลงทุนหลายคนที่มีหุ้นอยู่ในพอร์ตบอกว่า อาจจะต้องรอลงไปที่ระดับ 10 บาท

หรืออาจจะต้องต่ำกว่านั้น เพื่อซื้อถัวเฉลี่ยต้นทุนที่ตัวเองติดอยู่ด้านบน

หากข้อมูลจาก settrade พบว่า ราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ให้ไว้สูงสุดอยู่ที่ 21.70  บาท และต่ำสุด 13.80 บาท มีราคาเป้าหมายเฉลี่ย หรือ consensus อยู่ที่ประมาณ 18.20-18.30 บาท

เมื่อดูราคาที่ปิดล่าสุด กับราคาเฉลี่ยของนักวิเคราะห์

จะพบว่า ราคาปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำกว่าราคาเป้าหมายเฉลี่ยค่อนข้างมาก

และอย่างที่เรารับทราบกันดีว่า หุ้นทุกตัวต้องมีผู้ดูแลสภาพคล่องหรือ “เจ้ามือ”

แต่หุ้นโออาร์ในขณะนี้เหมือนจะไม่มีเจ้าภาพ เพราะบรรดารายใหญ่ต่างถอนการลงทุนออกไปก่อนหน้านี้แล้ว

ส่วนนักลงทุนสถาบัน แทบไม่เห็น “กองทุน” เข้ามาถือหุ้น

ที่จะมีจริง ๆ ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบันของภาครัฐ หรือที่เกี่ยวเนื่องกับภาครัฐเท่านั้น

เท่ากับว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นโออาร์ตอนนี้ รายย่อยเล่นกันเอง

ค่าการตลาดน้ำมันที่ถูกควบคุม

และผลตอบแทนของธุรกิจนอนออยล์ที่ยังต้องใช้เวลาอีกยาวกว่าจะขึ้นมามีสัดส่วนรายได้อย่างมีนัยสำคัญ

จึงสะท้อนมายังราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน

ธนะชัย ณ นคร