“เครือปตท.” งบไตรมาส 2 กวาดกำไร 7.03 หมื่นล้านบาท โต 90%

“เครือปตท.” งบไตรมาส 2/67 กวาดกำไร 7.03 หมื่นล้านบาท โต 89.65% TOP กำไรโตสุด 397% ขณะที่ PTT โชว์งบ Q2/67 กำไรล้น 35,500 ล้านบาท โตระเบิด 76% ธุรกิจสำรวจและผลิตบิโตรเลียมเติบโตดี


นางสาวพรรณนลิน มหาวงศ์ธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 35,469 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่บริษัทมียอดขายสูงถึง 821,943 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากงวดเดียวของช่วงปีก่อน

เนื่องจากกลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากปริมาณขายเฉลี่ยและราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น โดยธุรกิจบิโตรเคมีมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ทั้งจากลุ่มโอเลฟินส์และอะโรมติกส์ โดยกลุ่มโอเลฟินส์เพิ่มขึ้นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์เอทิลีนกับวัตถุดิบ รวมทั้งปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มอะโรเมติกส์เพิ่มขึ้นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์เบนซีน (Benzene:BZ) กับวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่ ธุรกิจการกลั่นมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยหลักจากกำไรสต๊อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรสต๊อกน้ำมันในไตรมาส 2/2567 ประมาณ 3,000 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาส 2/2566 มีผลขาดทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามกำไรขั้นต้นจากการกลั่น (Maketet GRM) ลดลงจาก 4.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในไตรมาส 2/2566 เป็น 3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ไตรมาส 2/2567 โดยหลักจากส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และน้ำมันอากาศยาน กับน้ำมันดินดิบปรับลดลง นอกจากนี้ยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 2,065 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 7,905 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ (Non-recurring Items) สุทธิภาษีตามสัดส่วนของปตท.เป็นกำไรประมาณ 5,400 ล้านบาท โดยหลักจากกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้บริษัท พีอีแอลเอ็นจี จำกัด (PE LNG) ของบริษัท พีทีทีแอลเอ็นจี จำกัด (PTTLNG) และกำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้ของบริษัท พีทีทีโกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ขณะที่ในไตรมาส 2/67 ยังมีผลกำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้ของบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP และ PTTGC

ทั้งนี้ข้อมูลงบการเงินในไตรมาส 2/2567 และงวด 6 เดือนแรกปี 2567 มีรายละเอียดดังนี้

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 3/2567 คาดความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น ทั้งนี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบในปี 2567 จะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 78-88 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และค่าการกลั่นอ้างอิงสิงคโปร์คาดจะเฉลี่ยอยู่ที่ 4.7-5.7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ไตรมาส 3/2567 มีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากอุปทานที่ปรับตัวสูงขึ้นจากโรงปิโตรเคมีที่กลับมาเริ่มเดินเครื่อง หลังจากผ่านช่วงเวลาปิดซ่อมบำรุงประจำปี ขณะที่สายอะโรเมติกส์ไตรมาส 3/2567 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงเล็กน้อย ตามอุปทานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นหลังโรงปิโตรเคมีซ่อมบำรุงแล้วเสร็จ ประกอบกับความต้องการในสหรัฐฯ คาดว่าจะลดลง

นางสาวพรรณนลิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 64,437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.4% จากงวดเดียวของปีก่อน และมียอดขาย 1,604,222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% จากงวดเดียวของปีก่อน

ขณะที่ยอดขายครึ่งแรกปี 2567 ที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น จากราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันอ้างอิง และปริมาณขายสูงขึ้น โดยหลักจากปริมาณการค้าน้ำมันสำเร็จรูปและ LNG ระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยหลักจากธุรกิจการกลั่น เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่าปริมาณขายลดลง รวมทั้งธุรกิจปิโตรเคมีมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น จากกลุ่มโอเลฟินส์ที่มีปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมมีรายไดจ้ากการขายเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากปริมาณขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าราคาขายเฉลี่ยปรับลดลง

ทุ่ม 1,650 ล้าน ลงทุนธุรกิจยาเพิ่ม

ล่าสุดการประชุมเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567 คณะกรรมการบริษัท Lotus Pharmaceutical Company Limited (Lotus) ในฐานะบริษัทย่อยของปตท. มีมติอนุมัติให้ Lotus เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท เทวา ฟาร์มา (ประเทศไทย) จํากัด (Teva Thailand) และเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ได้ดําเนินการชําระเงิน และรับโอนหุ้นแล้วเสร็จคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,500 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ หรือประมาณ 1,650 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการซื้อหุ้นดังกล่าว ทําให้ Lotus เข้าถือหุ้น Teva Thailand ในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียน

โดยการลงทุนดังกล่าวเป็นไปตามกลยุทธ์ของ Lotus ที่ต้องการขยายธุรกิจเพื่อเป็นผู้นําในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ Lotus ดําเนินธุรกิจหลักในการคิดค้นพัฒนา (R&D) ผลิตและจําหน่ายยา มุ่งเน้นยาสามัญ (Generic drugs) ที่ครอบคลุมหลายกลุ่มโรค โดยเฉพาะกลุ่มโรคมะเร็งและกลุ่มโรคระบบประสาทส่วนกลาง

อัพเป้าราคาใหม่ 40 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น PTT เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.10% มาปิดที่ระดับราคา 33.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2,715 ล้านบาท

ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ PTT ในไตรมาสที่ 2/2567 ออกมาดีเกินกว่าคาด ดังนั้นจึงปรับเพิ่มเป้าหมายราคาเป็น 40 บาท และประเมินอัตราเงินปันผลครึ่งปี (ม.ค.-มิ.ย. 2567) เพิ่มขึ้นเป็น 1 บาทต่อหุ้น

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มองว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ยังคงดีต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3/2567 โดยคาดว่าเงินปันผลรอบครึ่งปีแรกจะประกาศในเดือน ก.ย.นี้ อยู่ที่ 1 บาทต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับอัตราเงินปันผลครึ่งปีแรกของปี 2566 ที่ 0.8 บาทต่อหุ้น โดยให้ราคาเป้าหมาย 36 บาท

Back to top button