AOT เร่งเพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคเมอร์ส หลังพบผู้ป่วยเข้าไทย
AOT เพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคเมอร์สทุกสนามบิน หลังพบผู้ป่วยเข้าไทย
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้พบผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางหรือโรคเมอร์ส รายที่ 2 ซึ่งเป็นชายชาวโอมานที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยและได้มีการส่งตัวไปรักษาในห้องแยกโรคที่สถาบันบำราศนราดูรแล้วเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2559 แล้วนั้น ในส่วนของทอท.ซึ่งบริหารท่าอากาศยาน 6 แห่งของประเทศไทย ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ได้เพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคดังกล่าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีจำนวนเที่ยวบินที่มาจากประเทศในตะวันออกกลางมากที่สุด ได้จัดหลุมจอดบริเวณอาคารเทียบเครื่องบิน E และ G ให้กับสายการบินที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งสนับสนุนด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศด้านการติดตั้งเครื่อง Thermo Scanner บริเวณดังกล่าว และเพิ่มเจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตอาการของผู้โดยสาร โดยเฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศตะวันออกกลาง
นอกจากนั้นยังร่วมกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศในการประสานสายการบินและคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน (AOC) ให้ประกาศข้อคำเตือนด้านสุขภาพในเที่ยวบินที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง การแจก Health Beware Card ให้กับผู้โดยสาร และขอความร่วมมือสายการบินในการดูแลและเฝ้าระวังผู้โดยสาร สำหรับท่าอากาศยานอีก 5 แห่ง ได้ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิ (Hand Held Thermo Scanner) ประมาณ 1 – 2 เครื่องในการคัดกรองผู้โดยสารกลุ่มเสี่ยง
โดยในส่วนมาตรการอื่นๆ ทอท.ได้สนับสนุนการดูแลสุขอนามัยของผู้โดยสาร โดยการวางเจลล้างมือในจุดที่มีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก เช่น จุดกรอกเอกสาร จุดประชาสัมพันธ์ จุดจอดรถแท็กซี่รับผู้โดยสาร เป็นต้น รวมทั้งเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น รถเข็นสัมภาระ ราวบันไดทางเลื่อน เป็นต้น ทั้งนี้ หากผู้โดยสารมีอาการเจ็บป่วยระหว่างการเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโรคเมอร์ส ทอท.ขอแนะนำให้พบแพทย์โดยด่วนและให้บอกแพทย์ผู้รักษาทราบประวัติการเดินทางทุกครั้ง