ETL กวาดกำไร Q2 แตะ 340 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15%
ETL รายงานงบไตรมาส 2/67 กำไรแตะ 16 ล้านบาท กวาดรายได้ 340 ล้านบาท หลังออเดอร์ขนส่งทุเรียนไปจีนเกินเป้า ดันธุรกิจ Cold Chain โต ขยายตู้ควบคุมอุณหภูมิเท่าตัวรับดีมานด์ล้น ตั้งเป้าปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 15%
นางสาวกฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETL ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2/2567 มีรายได้ 340.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% และมีกำไรสุทธิ 16.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90% จากไตรมาสก่อนหน้า
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไร เนื่องจากปริมาณการส่งออกผลไม้สดไปยังประเทศจีนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งมีความต้องการส่งออกไปยังประเทศจีนเป็นจำนวนมาก รวมถึงปริมาณการนำเข้าและส่งออกข้ามชายแดนเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการขนส่งทางเรือที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นและมีระยะเวลาที่ไม่แน่นอน ทำให้ลูกค้าเปลี่ยนมาใช้บริการขนส่งทางบกแทน
โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2567 เติบโตไม่น้อยกว่า 15% จากปี 2566 ที่มีรายได้รวม 1,250 ล้านบาท และจะรักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 5-10% โดยมองว่าปีนี้จะมีการเติบโตจากธุรกิจ Cold Chain อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตมากกว่า 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากมีความต้องการใช้บริการในปริมาณที่สูงเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ให้บริการในตลาด
รวมถึงที่สินค้าประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากสินค้าเกษตรและผลไม้สด ที่ต้องการใช้ตู้ควบคุมอุณหภูมิ เช่น อาหาร ยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยรักษาคุณภาพของสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพจนถึงที่หมาย ทั้งยังมีปัจจัยบวกอื่นๆ ตามที่ได้เรียนไปข้างต้น ปัจจุบัน ETL มีตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิ (reefer container) 45 ฟุต จำนวน 100 ตู้ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 50 ตู้ ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนตู้คอนเทนเนอร์แบบมาตรฐาน (dry container) มีประมาณ 400 ตู้
“ETL ยังมีการขยายตู้ควบคุมอุณหภูมิ และขยาย Fleet ของหัวลากหางพ่วง เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ รวมไปถึงการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่าย เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยที่ 15-20% ตลอดจนสร้างเครือข่ายผ่านบริษัทย่อยในแต่ละประเทศเพื่อให้การขนส่งมีประสิทธิภาพ และเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางบกระหว่างประเทศ ยกระดับมาตรฐานทั้งคุณภาพและความปลอดภัย เพื่อตอบโจทย์ความพึงพอใจของลูกค้าสูงสุด” นางสาวกฤชวรรณ กล่าว