พาราสาวะถี

ไม่เกิน 4 โมงเย็นหรืออย่างช้า 5 โมงเย็นวันนี้ (14 สิงหาคม) จะได้รู้กัน เศรษฐา ทวีสิน รอดหรือร่วง จากการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ


ไม่เกิน 4 โมงเย็นหรืออย่างช้า 5 โมงเย็นวันนี้ (14 สิงหาคม) จะได้รู้กัน เศรษฐา ทวีสิน รอดหรือร่วง จากการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณี 40 สว.ยื่นถอดถอนพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากการตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวไม่ได้เดินทางไปฟังการชี้ขาดด้วยตนเอง มอบหมายให้ นายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ไปฟังแทน หากประเมินอาการทั้งคนที่ถูกร้อง และรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลแล้ว ผลน่าจะเป็นไปในทางบวก

อย่างไรก็ตาม วิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษานายกฯ ได้ชี้แนวทางไว้แล้วว่า หากเศรษฐาต้องหลุดจากเก้าอี้จริง ยังสามารถนั่งรักษาการนายกฯ ได้อยู่ จนกว่าผู้นำคนใหม่จะนำ ครม.ชุดใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณตน ไม่เพียงเท่านั้น ยังต้องดูคำวินิจฉัยด้วยว่าออกมาอย่างไร หากถูกชี้ขาดให้พ้นจากตำแหน่ง แต่ไม่มีอะไรที่ขัดรัฐธรรมนูญก็สามารถกลับมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ได้อีก หากเป็นเช่นนั้นเท่ากับปิดทางบรรดาพวกรอส้มหล่นกันไปในทันที ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับผลที่จะออกมา

ขณะเดียวกัน หากไม่สามารถกลับมาได้ เพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลยังมีแคนดิเดตนายกฯ เหลืออีก 2 คน คือ ชัยเกษม นิติสิริ กับ แพทองธาร ชินวัตร หากยังจับมือกันเหนียวแน่นเหมือนเดิม พรรคของนายใหญ่ก็ยังสามารถกุมสภาพการนำได้ต่อไป หรือถ้าจะเปลี่ยนด้วยเงื่อนไขหรือปัจจัยที่เพิ่มเข้ามาจากผลของการเลือก สว. คนที่จะเป็นตาอยู่ย่อมหนีไม่พ้น อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่มีโอกาสที่จะหลุดรอดไปถึง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อย่างแน่นอน

ส่วนพรรคฝ่ายค้านก็เหลือเพียง จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคช่วงเลือกตั้งเท่านั้น ตัวเลือกมีเท่านี้ก็พอจะคาดเดากันได้ว่า ถ้าการชี้ขาดทำให้เศรษฐาต้องตกเก้าอี้ หน้าตาของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร นอกจากนั้น กรณีที่เศรษฐานั่งรักษาการนายกฯ เนติบริกรศรีธนญชัยก็บอกแล้วว่า สามารถที่จะยุบสภาได้ ด้วยเงื่อนไขเช่นนี้ถามว่า แม้พรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทยจะกุมความได้เปรียบก็คงไม่อยากจะไปวัดกันในสนามเลือกตั้งในห้วงเวลานี้

เช่นเดียวกัน ไม่ว่าพรรคการเมืองใด ยกเว้นพรรคประชาชน ย่อมไม่อยากจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะรู้ดีว่ากระแสเป็นอย่างไร มองจากสภาพทางการเมืองที่เป็นอยู่ ไม่เห็นแนวโน้มที่จะเป็นคุณหรือก่อประโยชน์อันใดให้กับฝ่ายอนุรักษนิยมสุดโต่ง หรือพวกที่แสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาลปัจจุบัน หรือไม่อยากให้ ทักษิณ ชินวัตร มาร่วมงานกับรัฐบาลหลังพ้นโทษ ทางเลือกที่มีน้อย จำเป็นต้องเลือกทางที่ไม่ให้กระทบต่ออำนาจที่ทรงพลังมากที่สุด

หากยังเป็นการเมืองบนความขัดแย้งเหมือนช่วง 10 ปีก่อนหน้า แทบจะฟันธงไว้ได้เลยว่า ชะตากรรมของเศรษฐาคงไม่ต่างจากพรรคก้าวไกล แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ผลกระทบที่เกิดจากขบวนการสืบทอดอำนาจได้วางกลไกต่าง ๆ ไว้ ไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีต่อฝ่ายอนุรักษนิยม มิหนำซ้ำ ยังก่อให้เกิดการสั่นคลอน และท้าทายต่ออำนาจที่หนุนหลังพวกล้มระบอบทักษิณหนักเข้าไปอีก นั่นจึงเป็นเหตุให้สุดท้ายต้องเกิดรัฐบาลพลิกขั้ว และจำเป็นต้องให้นายใหญ่เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จะว่าไปแล้วในกระบวนการบริหารจัดการอำนาจที่นำมาสู่การตั้งรัฐบาลเศรษฐานั้น ทุกอย่างตกผลึกร่วมกันแล้วว่า ต้องเกิดขึ้นเพราะเหตุใด และอยู่ไปเพื่อหวังผลสิ่งไหน ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลส่วนใหญ่ หรืออาจจะเรียกได้ว่าทั้งหมดแทบไม่มีปัญหา มีเพียงพรรคของคนบ้านในป่าเท่านั้นที่ยังคงเกิดแรงกระเพื่อม ซึ่งเข้าใจได้ว่าเป็นความอึดอัดของคนเคยมีอำนาจ บารมีที่ทุกคนต้องเกรงขาม และตัวเองยังหวังว่าจะมีโอกาสได้นั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศสักครั้ง ทั้งที่ความจริงมันถึงเวลาที่ต้องนับถอยหลังเพื่อวางมือกันแล้ว

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การต่อรองเพื่อที่จะซื้องูเห่าไม่บรรลุผลสำเร็จ เพราะฝ่ายกุมเสียงข้างมากในพรรคไม่ได้ร่วมอยู่ในกระบวนการเจรจาด้วย เนื่องจากรู้ดีว่าอนาคตทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น สส.ส่วนใหญ่เปลี่ยนสีเสื้อร้อยเปอร์เซ็นต์ อยู่แค่ว่าจะย้ายไปสังกัดพรรคแกนนำรัฐบาลเลยทีเดียว หรือจะไปพักอยู่กับพรรคกล้าธรรม ที่ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เพิ่งถูกเลือกไปนั่งเป็นหัวหน้าหมาด ๆ กันก่อน แต่ปลายทางยังไงก็ต้องโบกมือลากันแน่

ความมั่นใจว่ายังไงเศรษฐาก็ได้ไปต่อ สะท้อนได้จากการที่พีระพันธุ์ได้เสนอชื่อ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติให้เป็นรัฐมนตรีไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่รู้ว่าคดีของนายกฯ ยังคาอยู่ศาลรัฐธรรมนูญ ทำไมจึงกล้าที่จะเสนอถ้าไม่ได้รับสารในเชิงบวก ย่อมจะต้องรอให้ผ่านพ้นกระบวนการวินิจฉัยไปก่อน นั่นหมายความว่าต้องได้รับข้อมูลอินไซด์มาแล้วจึงตัดสินใจเช่นนี้ ดีที่ว่าเศรษฐายังเป็นมวย ประกาศชัดมาตั้งแต่ต้น ยังไม่มีการปรับ ครม.จนกว่าจะพ้นเดือนสิงหาคมไปแล้ว

นี่ไงที่เรียกว่านายกฯ ผู้ถูกเลือกว่าเหมาะกับสถานการณ์ ทุกอย่างที่ผ่านการจัดตั้งมาแล้ว ย่อมมีการวิเคราะห์ และรับรองแล้วว่า หลังการเข้ามาจะต้องทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ที่ไม่ใช่ทำอะไรตามใจ หรือยึดแนวทางสุดโต่ง แต่เป็นการเปลี่ยนในบริบทที่อยู่กันได้ทั้งฝ่ายนักเลือกตั้ง องค์กรต่าง ๆ ที่ถูกมองในแง่ของผู้ถูกกดภายใต้อำนาจเผด็จการที่ผ่านมา รวมถึงอำนาจที่ทรงพลัง หากยังรักษาสมดุลของการอยู่ร่วมกันได้ดี ยังไงเสียก็มีโอกาสได้อยู่กันแบบยาว ๆ

คำถามต่อมา พรรคประชาชน ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในสมการของผู้ที่มีโอกาสจะเข้าขึ้นไปกุมอำนาจบริหารบ้างหรืออย่างไร คำตอบเดิมต่อให้เลือกตั้งชนะแบบแลนด์สไลด์ มีใครการันตีได้ว่า จะสามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้แบบสะดวกโยธิน มันต้องมีเหตุให้สะดุดจนได้ ไม่มีพวกลากตั้งแล้วใช่ว่าจะไร้อุปสรรค ก่อนจะไปถึงตรงนั้น ก็รอดูผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี และ สส.พิษณุโลก เขต 1 ก่อน หากได้เสียงหนุนแบบถล่มทลาย ชนะขาดลอย นั่นถือว่า ประชาชนเอาด้วยและเลือกที่จะอยู่ข้างผู้ถูกกระทำ แต่ถ้าไม่ก็น่าคิด ก่อนจะไปถึงตรงนั้น ดูคดีเศรษฐาในวันนี้ก่อนลงเอยแบบไหน นี่คือตัวชี้วัดทางการเมืองที่สำคัญ

อรชุน

Back to top button