DITTO วิ่ง 7% รับกำไร Q2 โต 35% แย้มครึ่งปีหลังแจ่ม ตุนแบ็กล็อก 4.4 พันลบ.
DITTO วิ่ง 7% ขานรับกำไรไตรมาส 2/67 แตะ 125 ล้านบาท โต 35% ส่งซิกครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง ตุนแบ็กล็อก 4.4 พันล้านบาท ลุ้นชนะประมูลโครงการขนาดใหญ่ อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา เตรียมรับรู้รายได้ไตรมาส 3-4/67
ผู้สื่อข่าวรายงาน (14 ส.ค.67) บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO ราคาอยู่ที่ระดับ 13.10 บาท บวก 0.90 บาท หรือ 7.38% ราคาสูงสุด 13.50 บาท และราคาต่ำสุด 12.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 57.71 บาท
นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO เปิดเผย ถึงผลประกอบการในงวด 3 เดือนของไตรมาส 2/2567 บริษัท DITTO และบริษัทย่อย ว่า มีรายได้จากการขาย และบริการ 511.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 69.32 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน และมีกำไรสุทธิ 125.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 32.82 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 35%
หากรวมผลประกอบการในรอบ 6 เดือนของปี 2567 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและบริการ 1,229.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 371.39 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนและมีกำไรสุทธิ 229.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.67 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อน
สำหรับงวด 6 เดือนของปี 2567 บริษัทและบริษัทย่อย สามารถรักษาระดับการเติบโตของยอดขายและกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง โดยหลักรายได้มาจากธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสารและระบบรักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์ที่มีการขยายการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน และรายได้จากธุรกิจรับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับโครงการราชการต่างๆ ได้แก่ โครงการสวนสัตว์แห่งใหม่ ระยะที่ 1 คลอง 6 โครงการพัฒนาศูนย์ศึกษาวิจัยแร่และหิน จังหวัดระยอง โครงการพัฒนาเกาะมันในเพื่อเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงนิเวศทางทะเล โครงการก่อสร้างพัฒนาศูนย์เรียนรู้ป่าชายเลนระนองสู่มรดกโลก
“คาดการณ์ว่าในครึ่งปีหลังบริษัทจะยังคงรักษาระดับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทและบริษัทย่อยมีแบ็คล็อกอยู่ในมือ 4,460.34 ล้านบาท อีกทั้งยังมีอีกหลายโครงการที่ชนะการประมูลในไตรมาส 2 เป็นโครงการขนาดใหญ่ อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา ซึ่งจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้ รวมถึงโครงการที่เป็นงานต่อเนื่องจากโครงการเดิมโดยเป็นงานด้านบริหารจัดการระบบเอกสารแบบดิจิทัลครบวงจร ดังนั้นเชื่อมั่นว่าในครึ่งปีหลังทั้งรายได้และกำไรจะทำนิวไฮต่อเนื่อง” นายฐกร กล่าว