พาราสาวะถี
คงเป็นการฉายภาพอย่างชัดเจนว่า “ผู้มากบารมี” เบื้องหลังดีลพลิกขั้วตั้งรัฐบาล หลังการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาคือ ทักษิณ ชินวัตร
คงเป็นการฉายภาพอย่างชัดเจนว่า “ผู้มากบารมี” เบื้องหลังดีลพลิกขั้วตั้งรัฐบาล หลังการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาคือ ทักษิณ ชินวัตร เช่นเดียวกับการยืนยันคำพูดของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ว่า เดือนสิงหาคมเป็นต้นไปจะเห็นภาพการทำงานของรัฐบาลเป็นรูปธรรม เป็นการวางฉากทัศน์ของการเมือง 2 มุมทั้งกรณีที่ เศรษฐา ทวีสิน ได้ไปต่อ และเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองถูกสอย คล้อยหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่กี่ชั่วโมง หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลต่างพาเหรดเข้าหารือกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้าอย่างพร้อมเพรียง
หลังจากนั้นไม่นานก็ได้บทสรุป เคาะส่ง ชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเลือกเป็นผู้นำประเทศ เพื่อสยบข่าวลือทั้งหลาย ทันทีทันใด ในเวลา 19.10 น. ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ทำหนังสือด่วนที่สุดถึง สส.ทุกคน ที่ สผ 0014/ผ 49 ลงวันที่ 14 ส.ค. 2567 เรียกประชุมในวันนี้ (16 สิงหาคม)
เนื้อหาระบุว่า ด้วยประธานสภาผู้แทนราษฎรได้มีคำสั่งให้ยกเลิกการนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 16 สิงหาคม 2567 และมีคำสั่งให้นัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ ในวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 อาคารรัฐสภา ไม่ต้องตีความคำวินิจฉัยให้ยุ่งยากว่าเศรษฐาจะกลับมาได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม แค่ข้ามวันช่วงสายวานนี้ที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทยกลับลงมติสวนทางกับสิ่งที่พรรคร่วมรัฐบาลได้ไปคุยกับนายใหญ่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า โดยอ้างว่าประชาชนต้องการให้พรรคส่ง แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคให้ที่ประชุมสภาฯ เลือกเป็นผู้นำประเทศ พร้อมกับแสดงความเป็นห่วงว่าหากให้ชัยเกษมรับหน้าที่ดังกล่าวเกรงจะมีปัญหาด้านสุขภาพ ทั้งที่ตามรายงานข่าวนั้น พบว่าอดีตอัยการสูงสุดรายนี้ยังคงแข็งแรงดี แม้จะเคยป่วยช่วงระหว่างหาเสียงและตั้งรัฐบาลก็ตาม
แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นเกมสับขาหลอกอีกอย่างหนึ่งของผู้มีอำนาจอย่างแท้จริง เพื่อที่จะแสดงให้คนทั่วไปเห็นว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะผลักดันให้ลูกสาวมานั่งเป็นนายกฯ แต่เมื่อเป็นมติ สส.ของพรรคแกนนำรัฐบาล และคณะกรรมการบริหารพรรคให้ความเห็นชอบย่อมขัดไม่ได้ จึงตามมาด้วยพิธีกรรมหลังจากที่คณะกรรมการบริหารเพื่อไทยเคาะชื่ออุ๊งอิ๊งแล้ว บรรดาหัวหน้าและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลจึงไปร่วมกันแถลงข่าวสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทยดังกล่าว
ความจริงหากจับอาการแปลกแปร่งของเกมโยนหินถามทางนั้น เริ่มตั้งแต่บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลที่กลายเป็นรักษาการในปัจจุบัน ต่างพากันตอกย้ำที่จะหนุนแคนดิเดตนายกฯ จากเพื่อไทย โดย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เปรยเป็นนัยว่า การหารือกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้าในช่วงค่ำคืนวันพุธไม่ได้มีบทสรุปที่จะเสนอชื่อชัยเกษม แต่ความชัดเจนคือต้องเป็นคนของเพื่อไทย แน่นอนว่า บรรดาพรรคร่วมทั้งหมดยึดถือแนวทางเดียวกันคือ ไม่สนับสนุนหรือจับมือทำงานร่วมกับพรรคที่มีแนวทาง ความคิดแก้ไขมาตรา 112
เท่ากับปิดประตูตายไม่ให้พรรคประชาชนมาร่วมขบวนแห่งอำนาจบริหาร ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้นายใหญ่ตัดสินใจส่งลูกสาวขึ้นลิฟต์เร็วกว่าที่คาดกันนั้น ถือเป็นการเดิมพันหลังจากที่เคยเทหมดหน้าตักเมื่อคราวถูกกล่าวหาว่าตระบัดสัตย์ไปแล้ว คงไม่มีจังหวะไหนที่จะดีไปกว่านี้ การได้โอกาสแสดงฝีมือในการบริหารประเทศ หากทำงานเข้าตา สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ด้วยภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ ย่อมจะเบียดแย่งคะแนนนิยมจากคู่แข่งอย่างอดีตพรรคก้าวไกลได้
ประการสำคัญหากมัวยักแย่ยักยัน ก็เกรงว่าจะมีตาอยู่มาคว้าพุงปลาไปกิน สำหรับ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ถูกยกให้เป็นนายกฯ สำรองมาตั้งแต่ไก่โห่ จับอาการจากบทสัมภาษณ์ล่าสุด ยังไงเก้าอี้นายกฯ ก็ไม่มาถึงตน ที่ใครต่อใครพากันมองว่าน่าจะเป็นคนที่รับส้มหล่นโครมเบ้อเริ่มนั้น เสี่ยหนูตอบกลับเป็นเห็นภาพว่า “มันทุเรียนหล่น ไม่ใช่ส้มหล่น เจ็บตายโหง” แหม! พอจะเข้าใจได้ คนที่อยู่ในฐานะกุมความได้เปรียบอยู่แล้ว จะไปทำให้ทุกอย่างมันยุ่งยากไปอีกเพื่ออะไร
ทั้งนี้ เงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างตกผลึกในเวลาอันรวดเร็ว นั่นเป็นเพราะการเมืองสูตรนี้จะไม่มีการขยับสับเปลี่ยนกระทรวงในการบริหารงาน พรรคไหนดูแลอย่างไรก็ว่ากันไปเหมือนเดิม ตัวบุคคลจะขยับก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรคไปว่ากันเอง กรณีนี้ถือเป็นความสบายใจของเสี่ยหนู เพราะตัวบุคลากรภายในพรรคที่จัดวางไว้นั้นถือว่าเหมาะสมกับทุกตำแหน่งแล้ว เหลือเพียงรวมไทยสร้างชาติที่พีระพันธุ์ ชงชื่อ เอกนัฎ พร้อมพันธุ์ ไว้ในมือเศรษฐาก่อนหน้า จะถูกจัดวางไปที่เก้าอี้ใดเท่านั้น
หากเพื่อไทยยังประสงค์ที่จะดูแลกระทรวงการคลังด้วยคนของตัวเองทั้งหมด ก็ต้องหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับลูกเลี้ยงของ สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำม็อบนกหวีด ส่วนเรื่องที่ว่านโยบายเรือธงอย่างดิจิทัลวอลเล็ตจะเดินหน้าต่อหรือไม่ ถือเป็นเครื่องหมายคำถามตัวโต ฟังข้อทักท้วงของ วิษณุ เครืองาม วันที่เศรษฐาจะถูกสอย โครงการนี้ยังติดปัญหาบางประการ และล่าสุด ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อรัฐบาลเดิมไม่อยู่แล้ว โดยหลักการแล้วมันควรจะหยุดลง และไม่จำเป็นต้องกลับไปถามความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ดูว่าเพื่อไทยจะใช้เป็นจังหวะถอยเลยหรือไม่
เข้าใจได้ว่าการเร่งรัดเลือกนายกฯ เพื่อมีรัฐบาลทำงานต่อนั้น ทางการเมืองไม่มีอะไรให้ต้องคิดกันหลายชั้น คนที่จะเป็นผู้นำต้องอยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลปัจจุบันอยู่ แค่เคาะให้ชัดว่าจะเอาใครเท่านั้น และไม่มีทางที่จะให้พรรคประชาชนมากุมอำนาจบริหารได้ ที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือ ความเชื่อมั่นต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ จำเป็นต้องไม่เกิดภาวะสุญญากาศในการบริหารประเทศ ดังเห็นได้จากปฏิกิริยาของภาคเอกชนทั้งหลายหลังเศรษฐาถูกสอย สุดท้ายก็ต้องรอดูหลังได้นายกฯ คนใหม่แล้ว จะมั่นใจ มีความหวัง หรือหวั่นไหวกันแน่
อรชุน