พาราสาวะถี

ความขัดแย้งที่จบลงด้วยการแตกหักระหว่าง พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป. กับ ผู้กองมันคือแป้ง น่าจะเป็นการสะท้อนภาพสัจธรรมทางการเมืองที่ว่า อำนาจมีขึ้นมีลง


ความขัดแย้งที่จบลงด้วยการแตกหักระหว่าง พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป. กับ ผู้กองมันคือแป้ง น่าจะเป็นการสะท้อนภาพสัจธรรมทางการเมืองที่ว่า อำนาจมีขึ้นมีลง คนที่ปลง รู้จักปล่อยวางเท่านั้น จึงจะพบหนทางที่นำพาความสุขมาให้ตัวเองได้ งานนี้ไม่ต้องถามว่าใครหลอกใคร หรือมีแผนการที่จะย่อยสลายพรรคสืบทอดอำนาจหรือไม่ ทั้งหมดมันอยู่ที่ความลุ่มหลง มัวเมา ยึดติดกับหัวโขน อำนาจ บารมี ความฝันที่คิดว่าจะกลับมาได้ สุดท้าย แทนที่จะวางมือแบบสง่างาม กลับเสียเชิง เสียศักดิ์ศรีไม่เป็นท่า

ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เกิดจากความมั่นใจ ในฐานะฝ่ายอนุรักษนิยมที่ประกาศว่าเป็นอนุรักษนิยมทันสมัย แต่กระบวนการคิด วิธีการขับเคลื่อน โคตรคร่ำครึ ความจริงน่าจะรู้ตัวตั้งแต่มีสัญญาณว่าคนบ้านในป่าสร้างความวุ่นวายทางการเมืองแล้วว่า ฝ่ายกุมอำนาจโดยเฉพาะผู้มีบารมีในรัฐบาลอย่างแท้จริง คิดอย่างไรต่อการขับเคลื่อนทางการเมืองของอดีตผู้มีบารมีจากคณะเผด็จการ คสช.ที่ยังหลงเหลืออยู่ แถมยังมีปม 40 สว.ที่ยื่นร้องจนทำให้ เศรษฐา ทวีสิน กระเด็นตกเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีก

เหล่านี้คือขบวนการของพวกที่เคยอยู่ยาว แล้วยังอยากจะมีอำนาจ และหวังว่าจะได้กลับคืนสู่อำนาจไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โดยลืมมองไปว่าการดีลกันจนตั้งรัฐบาลพลิกขั้วได้นั้น สถานการณ์ทางการเมืองได้เปลี่ยนไปมากโข ทุกอย่างไปไกลกว่าที่จะมานั่งคิดว่าจะเกิดรัฐประหารอีกหรือไม่ อำนาจเก่าจะได้กลับมาอีกไหม แต่มองไปถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะจับมือกันเพื่อสกัดกั้นไม่ให้พรรคการเมืองรุ่นใหม่สุดโต่งเข้าสู่อำนาจบริหาร เพื่อไม่กระทบต่ออำนาจที่ทรงพลังได้อย่างไร

เมื่อเป้าหมายชัด ทุกอย่างจึงถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระบบ มีแผนสำรองที่ถูกมองว่าคิดเร็ว ทำเร็ว เหมือนการมีนายกฯ คนใหม่ภายในระยะเวลาแค่ 2 วันหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ในขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลอันดับสองอย่างภูมิใจไทยที่มีชื่อของ อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ สำรองตั้งแต่ไก่โห่ ก็ยึดมารยาททางการเมือง ยืนยันสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทยให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำบริหารประเทศ แม้ว่าอีกทางจะปรากฏข่าวอาจารย์ใหญ่ของพรรคไปแอบเจรจากับคนบ้านในป่าก็ตาม

พอจะเข้าใจได้ กุนซือของพรรคเสี่ยหนูต้องเดินเกมแบบนี้ เพราะหวังที่จะอาศัยบารมีของพี่ใหญ่ไปช่วยน้องชายที่ต้องคดีใหญ่ในความดูแลของ ป.ป.ช. ที่ต้องบอกว่าเจรจาไปเผื่อฟลุก เนื่องจากความจริงเวลานี้บรรดากรรมการ ป.ป.ช.ทั้งหลายก็ยังไม่รู้ว่าชะตากรรมของตัวเอง โดยเฉพาะบางคนที่กำลังจะปลดระวางแล้ว บั้นปลายจะเป็นอย่างไร อันเป็นผลมาจากการไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการสอบเรื่องนาฬิกาเพื่อนให้กับ วีระ สมความคิด ที่ล่าสุดไปยื่นฟ้องเอาผิดอาญาต่อกรรมการ ป.ป.ช.เป็นที่เรียบร้อย

การแข็งข้อจนนำไปสู่การแตกหักของ ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ใช่ไม่มีที่มาที่ไป ทุกอย่างล้วนมีเหตุผล คำพูดที่ว่ารับใช้มานานกว่า 6 ปีพอแล้ว เป็นการชี้ให้เห็นเส้นทางการเมืองของผู้กองมันคือแป้ง ที่ต้องย้ายคอกจากเพื่อไทยมาสังกัดพรรคสืบทอดอำนาจด้วยเหตุผล เมื่ออำนาจเปลี่ยนมือ บริบททางการเมืองเปลี่ยนไป ย่อมถึงเวลาที่จะต้องเดินตามครรลองที่ควรจะเป็น เหมือนที่บอกชะตากรรมของคนตระกูลชินวัตร กับ วงษ์สุวรรณ นาทีนี้ต่างกันราวฟ้ากับเหว

ไม่เพียงแต่น้องชายจะไม่ได้เป็นรัฐมนตรี บรรดา สส.ที่ยังภักดีถ้าในอนาคตอันใกล้ไม่ย้ายฝั่ง อาจต้องไปยืนอยู่ในซีกฝ่ายค้าน พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ก็กำลังเผชิญกับผลของอารมณ์ชั่ววูบที่ไปตบหัวนักข่าวสาวด้วยความไม่พอใจที่ถูกถามปมไม่ไปโหวตเลือก แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ ล่าสุด สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เข้ายื่นหนังสือต่อ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมในฐานะที่เป็น สส.บัญชีรายชื่อเป็นที่เรียบร้อย

โดยสภาวิชาชีพข่าววิทยุฯ และสมาคมนักข่าววิทยุฯ เห็นตรงกันว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงพฤติกรรมที่เกินกว่าปกติวิสัยของการพูดคุยหยอกล้อกันด้วยความคุ้นเคย ระหว่างผู้สื่อข่าวกับแหล่งข่าว แต่เป็นการแสดงอาการโกรธเกรี้ยวและใช้กำลังคุกคามผู้สื่อข่าวที่ตั้งคำถามสัมภาษณ์ เรียกได้ว่าอยู่ในภาวะผีซ้ำด้ำพลอยอย่างแท้จริง นี่กระมังที่เขาเรียกว่า คนที่อยู่ในภาวะอำนาจเสื่อม บารมีถดถอย มักจะมีแต่เรื่องให้ต้องกุมขมับไม่หยุดหย่อน

สำหรับโผ ครม.ตอนนี้คงเหลือแค่การเคาะในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นที่แน่นอนแล้วว่ากลุ่มของธรรมนัสจะได้เก้าอี้รัฐมนตรี 3 ตำแหน่ง โดยมีการแก้เกมด้วยการส่งชื่อ อัครา พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีหากผู้กองมันคือแป้งมีปัญหาคุณสมบัติ ตอนนี้ที่มีปัญหาคือ 6 เสียง สส.ในความดูแลของ สันติ พร้อมพัฒน์ ที่เดิมไปอยู่ข้างธรรมนัส แต่มีความพยายามจะดึงกลับไปอยู่ฝั่งลุง ถ้าตกลงกันได้ตามนี้ก็เท่ากับว่าจะมีการผลักให้ สส.ที่เลือกข้างฝ่ายคนบ้านในป่าต้องไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

หากเป็นไปตามสูตรนี้ ก็มีความเป็นไปได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้รับโอกาสเข้าร่วมรัฐบาล มีรายงานว่าจะได้รับการจัดสรรเก้าอี้ให้ 2 ตำแหน่ง นั่นสอดรับกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้นภายในพรรคเก่าแก่อย่างต่อเนื่องว่า บรรดาผู้มีบารมี ผู้อาวุโสของพรรค เตรียมที่จะแสดงจุดยืน บางรายถึงขั้นที่อาจจะยอมสละเก้าอี้ สส.กันเลยทีเดียว กรณีนี้ก็ไม่ต่างกันกับพวกที่แยกตัวไปอยู่พรรคใหม่ ซึ่งเคยเป่านกหวีดไล่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และล้มระบอบทักษิณที่สุดท้ายต้องมายกมือหนุนอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ ไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้านดักดานแน่นอน

เมื่อยึดตามที่แพทองธารได้ประกาศไว้ รายชื่อ ครม.น่าจะจบภายในสัปดาห์นี้ ฟังที่ ภูมิธรรม เวชยชัย ผู้จัดการรัฐบาลบอก ปัญหาของพลังประชารัฐต้องเคลียร์กันให้จบ และขีดเส้นให้ส่งรายชื่อภายในวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา วันนี้หรืออย่างช้าไม่เกินวันศุกร์คงจะได้เห็นโฉมหน้ารัฐบาลกันแล้ว น่าสนใจว่าพรรคสืบทอดอำนาจร่อนแถลงการณ์ส่งรายชื่อ 4 รัฐมนตรีนั่งตำแหน่งเดิม ขณะที่ ไผ่ ลิกค์ คนสนิทธรรมนัสยันทางกลุ่มก็ส่งชื่อรัฐมนตรีให้พรรคแกนนำรัฐบาลแล้วเช่นกัน ไม่รู้ชื่อซ้ำกันหรือไม่ ที่แน่ ๆ ออกมาแนวนี้น่าจะตอกย้ำได้ว่า ซีกของคนบ้านในป่าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้หมดรูป

อรชุน

Back to top button