พาราสาวะถี
ต้องยอมรับความจริงกันว่า ทักษิณ ชินวัตร คือผู้มีบารมีที่แท้จริงทั้งในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย พวกที่นิยมลากเอาอดีตนายกรัฐมนตรีมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง
ต้องยอมรับความจริงกันว่า ทักษิณ ชินวัตร คือผู้มีบารมีที่แท้จริงทั้งในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย พวกที่นิยมลากเอาอดีตนายกรัฐมนตรีมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ก็จะมุ่งตีประเด็น “ครอบงำ” เป็นด้านหลัก ไม่ว่าจะรัฐบาลหรือพรรคแกนนำ การยัดเยียดแบบนี้ทำได้โดยอาศัยวาทกรรมกล่าวหา โจมตีกันเพื่อให้เกิดกระแสไปวัน ๆ หากไม่ดัดจริตกันเกินไป คำถามง่าย ๆ คือ แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะลูกสาวเมื่อมีพ่อที่เคยประสบความสำเร็จในการบริหารประเทศมาแล้ว จะไม่ขอคำปรึกษา ชี้แนะใด ๆ อย่างนั้นหรือ
ความรู้ ความสามารถที่มีสัมผัสได้จากเวทีที่ไปแสดงวิสัยทัศน์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากบรรดาภาคเอกชนทั้งหลาย นั่นแสดงให้เห็นว่า สัญญาณที่ได้รับมาของคนระดับเจ้าสัวนั้น มองตรงกัน ต้องก้าวข้ามความขัดแย้งเพื่อบ้านเมือง ภาคการเมืองต้องให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน และการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซึมยาวตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร กระทั่งทรุดหนักในห้วง 10 กว่าปีที่อยู่ภายใต้การบริหารของเผด็จการ คสช.และรัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจ
ความจำเป็นในการที่จะต้องมีรัฐบาลแบบเพื่อไทย ประสานความร่วมมือกับพรรคการเมืองที่ยังคงยึดโยงกับฝ่ายอนุรักษนิยม ไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อมองไปยังพรรคการเมืองเกิดใหม่ที่มีแนวคิดสุดโต่ง การเลือกนายกฯ ทันทีหลังจากที่ เศรษฐา ทวีสิน ถูกสอยพ้นจากตำแหน่ง คือภาพสะท้อนของการได้รับไฟเขียวจากอำนาจที่ทรงพลัง และบรรดาชนชั้นอีลิท ที่เห็นว่าภายใต้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จำเป็นต้องเร่งวางตัวผู้นำและผลักดันให้เกิดรัฐบาลใหม่โดยเร็ว
สำหรับความวุ่นวายช่วงนี้เกี่ยวกับการแย่งโควตารัฐมนตรีของบางพรรคการเมืองนั้น เป็นเรื่องปกติของนักเลือกตั้ง โดยเฉพาะกับพรรคที่มีความขัดแย้งกันมาโดยตลอด กรณีพลังประชารัฐที่คนบ้านในป่าเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค แล้วมีมติส่ง 4 รายชื่อรัฐมนตรีเดิมให้แกนนำรัฐบาลพิจารณานั้น ก็ทำให้เห็นการเล่นเกมทางกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อบีบให้อุ๊งอิ๊งและเพื่อไทยไม่ตัดสินใจเลือกเอากลุ่มหนึ่ง ก๊วนใดร่วมรัฐบาล
ทั้งที่ความจริงปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการให้สัมภาษณ์ของผู้นำพรรคของตัวเอง ที่ดันไปประกาศตัดรายชื่อ ธรรมนัส พรหมเผ่า ทิ้งอ้างว่า พรรคแกนนำไม่เอา กระทั่งผู้กองมันคือแป้ง แสดงท่าทีแข็งกร้าว ตัดญาติขาดมิตร จึงมีการเปลี่ยนท่าที หลักฐานก็ปรากฏตามสื่อมวลชนต่าง ๆ ว่าใครกันที่กลับกลอก ประเด็นที่ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค กล่าวหาในทำนองนายใหญ่ของเพื่อไทยไปครอบงำพรรคอื่นยิ่งไปกันใหญ่ เช่นนี้ยังอยากจะร่วมรัฐบาลกับลูกสาวเขาอีก ไม่อย่างหนาจริงคงไม่มีใครทำ
น่าสนใจไม่น้อยต่อประเด็นการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย เพราะฟังจาก แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ระบุชัด การเลือกใครมาเป็นรัฐมนตรีเป็นอำนาจโดยตรงของนายกฯ ไม่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และไม่ต้องรายงาน กกต. ถ้าเช่นนั้นที่พรรคสืบทอดอำนาจอ้างมติพรรคมากดดันพรรคแกนนำรัฐบาลคงไม่มีผล อยู่ที่ว่าอุ๊งอิ๊งและแกนนำที่มีอำนาจตัดสินใจจะกล้าเสี่ยงตามที่เลขาฯ กกต.ว่าหรือไม่
เนื่องจากมีเสียงเตือนมาจาก สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ว่า พวกที่อยู่พรรคการเมืองหนึ่ง แต่แอบติดต่อกับพรรคแกนนำรัฐบาล เสนอชื่อใครต่อใครร่วมรัฐบาล โดยกรรมการบริหารพรรคไม่ได้ให้ความเห็นชอบ และอ้างว่าตัวเองมีเสียง สส.ในมือเท่าโน้นเท่านี้ เพื่อขอตำแหน่งรัฐมนตรี โปรดระวัง อาจมีผู้ไปร้องต่อ ป.ป.ช.ว่าท่านทำผิด พ.ร.ป.พรรคการเมืองในเรื่องการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง และฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในประเด็นแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว นำไปสู่การถอดถอนและตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต
ผู้บริหารพรรคการเมือง ที่รับผู้ที่รู้หรือสมควรรู้ว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมที่ขัดมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง อาจถูกรางวัลใหญ่ตามไปด้วย ปุจฉาตัวโตคือ ระหว่างคำเตือนของอดีต กกต.ที่ฟันธงเรื่องใดส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะเป็นไปตามนั้น กับความเห็นของเลขาฯ กกต.ควรจะฟังใคร เชื่อว่ามาถึงตรงนี้พรรคแกนนำรัฐบาลมีคำตอบอยู่ในใจไว้แล้ว เช่นเดียวกับการดึงเอาพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาล ไม่ใช่เพียงการทำให้เสียงหนุนแพทองธารมีเสถียรภาพเท่านั้น แต่มันเป็นเกมที่ทำให้นายใหญ่ได้สะสางสิ่งที่ถูกกระทำมาในอดีต
เมื่อโจทย์ที่ได้รับคือให้ทุกพรรคร่วมกันทำงาน ย่อมเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักในการจะชักชวนฝ่ายที่เคยเป็นศัตรูมาร่วมงาน ส่วนเรื่องที่ว่าในอนาคตจะทำให้พรรคเก่าแก่กลายเป็นตำนานหรือไม่ ไม่มีใครให้คำตอบได้ นักเลือกตั้งต้องอยู่กับปัจจุบัน การได้รับโอกาสเลือกว่าจะอยู่ฝ่ายบริหาร ร่วมรัฐบาล หรือเลือกเป็นฝ่ายค้าน รู้กันอยู่แล้วว่านักการเมืองอาชีพจะเลือกแบบไหน เอาเข้าจริงเมื่อถึงคราวเลือกตั้ง ส่วนของพรรคขนาดกลางถึงเล็ก ต่างอาศัยฐานเสียงเฉพาะตัวเอาตัวรอดกันทั้งนั้น ไม่ได้หวังคะแนนสนับสนุนจากพรรคแต่อย่างใด
จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสะสมกระสุน เสบียงไว้ให้ได้มากที่สุด การมาเป็นผู้มีอำนาจอย่างแท้จริงของนายใหญ่รอบนี้ อาจเสียรังวัดจากที่เศรษฐาโดนสอย และผลงานรัฐบาลยังไม่เป็นชิ้นเป็นอันในขวบปีแรก แต่หลังจากนี้น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง หากทำให้การเมืองว่าด้วยการจัดขบวนแห่งอำนาจนิ่งแล้ว น่าจะได้เห็นกระบวนการทำงานที่เป็นรูปธรรมเหมือนที่เจ้าตัวเคยบอกไว้ก่อนหน้า การวางทางถอยเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต น่าจะเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า อะไรที่จะเดินไปชนตอก็พร้อมปรับไม่ดันทุรังเหมือนในอดีต
ด้วยท่วงทำนองเช่นนี้รายชื่อของ ครม.แพทองธาร 1 จึงน่าจะมีบทสรุปภายในสัปดาห์นี้ เพราะไทม์ไลน์ที่อยู่ในมือของแกนนำเพื่อไทยนั้น มีการกำหนดวันของการที่จะประชุม ครม.นัดแรกไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นหมายความว่า หลังจากเคาะรายชื่อกันลงตัว กระบวนการจากนี้จะไม่ช้า ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อุ๊งอิ๊งน่าจะนำ ครม.ชุดใหม่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้ไม่เกินวันที่ 11 กันยายนนี้ หลังจากนั้นจะเป็นการประชุม ครม.นัดแรก เมื่อกางปฏิทินดูแล้ววันอังคารหลังจากแถลงนโยบายก็จะตรงกับวันที่ 17 กันยายน ที่เห็นฝุ่นตลบอยู่ตอนนี้ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้น เพราะทุกอย่างมันถูกเลือกและจัดวางไว้ตามแผนที่กำหนดหมดแล้ว
อรชุน