เสี่ยจิง คน(สู้)จริงแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย หรือ เสี่ยจิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) หรือ CHO เป็นผู้บริหารบริษัทที่มุ่งมั่นเอาจริง และมีวิสัยทัศน์ยาวไกล นั่นเป็นคุณสมบัติที่เกินพอแล้ว แต่..เขามีดีกว่านั้น
สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย หรือ เสี่ยจิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) หรือ CHO เป็นผู้บริหารบริษัทที่มุ่งมั่นเอาจริง และมีวิสัยทัศน์ยาวไกล นั่นเป็นคุณสมบัติที่เกินพอแล้ว แต่..เขามีดีกว่านั้น
อันที่จริง หากปีที่ผ่านมา ไม่มีอุบัติเหตุเรื่องการประมูลรถเมล์ เอ็นจีวีของ ขสมก.เข้ามาทำให้เสียศูนย์ ใครๆ ก็รู้ดีว่า CHO จะสำแดงพลัง “เก้าอิมจินเกง” แปลงสภาพจากบริษัทจดทะเบียนนอกสายตาจากจังหวัดขอนแก่น เป็นดาวรุ่งดวงใหม่ที่บรรดากองทุนทั้งหลายจะต้องแห่กันเข้าไปเยี่ยมชมกิจการ…ชนิดหัวกระไดไม่แห้ง
ความหวังสำคัญคือ หากสามารถเซ็นสัญญาจากการเป็นผู้ชนะการประมูล เป็นผู้ผลิตและประกอบรถประจำทาง NGV ให้กับ ขสมก. จำนวน 489 คัน มูลค่า 1.5 พันล้านบาทเศษ พร้อมกับสัญญาซ่อมบำรุงอีกประมาณ 2.2 พันล้านบาทภายใน 10 ปีข้างหน้า CHO จะก้าวกระโดดจากรายได้ที่เคยคาดว่าสิ้นปี 2558 จะมีอยู่ที่ประมาณ 1.5 พันล้านบาท กลายเป็น 3 พันล้านบาท หรือ 2 เท่าตัวในฉับพลัน แต่..ชะตากรรมก็พลิกผัน
คนกลุ่มน้อยที่อยากมีตำแหน่งอำนาจ แต่ขี้ขลาด…ไม่ยอมรับผิดชอบ..พากันตัดช่องน้อย ยกเลิกการประมูลเสียยังงั้น..ปัดสวะหน้าตาเฉย ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ตามประสาแมวอ้วน…ไม่ทำอะไร ก็ไม่ถือว่าทำผิด
ผลพวงที่ตามมาคือ ต้นทุนของบริษัท เพราะ CHO ต้องแบกรับค่าเสียโอกาสจากต้นทุนจากการชะลอรับงานในช่วงไตรมาส 2/8 และไตรมาส 3/58 เพื่อรองานโครงการรถโดยสาร NGV ส่งผลให้บริษัทยอมรับว่า งวดสิ้นปี 2558 จะมีกำไรสุทธิลดลงจากปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 97.31 ล้านบาท
ราคาหุ้นที่ขาประจำมั่นใจและคาดว่าจะทะลุแนวต้านไปเหนือ 5.00 บาท ถึงกับร่วงและซึมยาวมาจนต่ำกว่า 2.00 บาท ในปัจจุบัน
นักเรียนเก่าวิศวะฯญี่ปุ่น..อย่าง เสี่ยจิง ไม่ใช่คนที่ชอบตีโพยตีพาย หรือซึมเศร้ากับชะตากรรม จากการตกเป็นเหยื่อที่ตนเองไม่ได้ก่อ …เพราะฉะนั้น เมื่อหากินเมืองไทยมันยุ่งยากนัก แต่โอกาสแสดงพลังของ CHO ที่ปูทางเอาไว้ในเวทีระดับโลกมาแล้วนานหลายปี จนเป็นที่ยอมรับและเลื่องลือตั้งแต่ก่อนเข้าตลาด ก็ยังเปิดกว้าง และมีโอกาสเสมอสำหรับผู้บริหารวิสัยทัศน์ยาวไกล และเอาจริงเอาจัง
เมื่อมีข่าวอิหร่านกำลังจะถูกยกเลิกคว่ำบาตรจากชาติมหาอำนาจตะวันตก เสี่ยจิงรีบสวมวิญญาณติดจรวด เดินทางเข้าอิหร่านก่อนใคร…แน่นอนไม่ได้ไปเที่ยวหาความสำราญ..ชนิดที่เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ไทย ต้องได้อาย
ทริปนี้ไม่ได้เสียเที่ยวเปล่า แม้จะยังไม่ไดออเดอร์อะไรกลับมา แต่การได้พบปะและถ่ายภาพร่วมกันกับผู้นำระดับตัดสินใจสั่งซื้อสำคัญของกองทัพอิหร่าน…ย่อมไม่ธรรมดา
ดูจากภาพถ่ายก็กินขาด เพราะงานนี้เชื่อแน่ว่า เป้าหมายสำคัญของเสี่ยจิงคือ คว้างานประกอบรถเฉพาะสำหรับกกองทัพอิหร่าน ที่ได้ชื่อว่า แสนยานุภาพระดับนำของตะวันออกกลาง…แถมยังจะร่ำรวยมหาศาลจากการถูกยกเลิกข้อห้ามส่งออกน้ำมันไปตลาดโลก …เงินกำลังไหลเข้าอิหร่านอย่างนี้ อะไรก็เปิดทางโล่ง
ใครที่ดูภาพของเสี่ยจิงกับรถบรรทุกของกองทัพอิหร่านแล้ว…ไม่เข้าซื้อหุ้น CHO ยามนี้ ถือว่าเฉื่อยชาเกินไปจริงๆ ไม่ใช่ขาประจำที่รักกันจริง
ถัดจากอิหร่าน เสี่ยจิง แวะต่อไปที่อาบูดาบี เมืองหลวงของยูเออี ซึ่งเป็นสนามบินสำคัญเป็นฐานที่มั่นจอดเครื่องของสายการบิน เอมิเรตส์ และ เอธิฮัด ยักษ์ใหญ่ของสายการบินพาณิชย์โลก …แล้วก็คว้าเบี้ยใกล้มือ ได้งานเล็กๆ ติดมือ….เป็นค่าเครื่องบินกลับบ้าน
เล็กแค่ไหน..ก็ 40 ล้านบาทเป็นออเดอร์รับงานผลิตรถลำเลียงอาหารในสนามบิน หรือ Catering จำนวน 5 คัน มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท จากทั้งหมด 20 คัน โดยอีก 15 คันที่เหลือ คนสั่งยังขอรอดูสถานการณ์ในภูมิภาคเสียก่อน
สำหรับรถลำเลียงอาหารดังกล่าวสามารถใช้ได้กับเครื่องบินทุกประเภท กระทั่งแอร์บัส 380-A ลำใหญ่สุดในโลกยามนี้ด้วย เป็นที่ยอมรับว่า CHO นั้น ไม่จำต้องพึ่งพาความหวังเลื่อนลอยจากการออเดอร์ ขสมก.อย่างเดียว
สำหรับริษัทขนาดเล็ก เพียงแค่นี้ก็หนุนรายได้ปี 59 โต 10% ตั้งแต่ต้นปีกันเลยทีเดียว นอกเหนือจากแบ็กล็อกแล้ว 600 ล้านบาท โดยงานทั้งหมดทยอยส่งมอบภายในปี 2559 ทั้งหมด มาจากงานภายในประเทศ 50% และงานต่างประเทศ 50%
เมื่อผู้นำอย่างเสียจิงขยันมาก ทีมงานก็ย่อมขยันไม่แพ้กัน ล่าสุด CHO ยังชนะการประมูลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มูลค่า 34 ล้านบาท เป็นรถขนส่งขนาดหนัก 100 ตัน จำนวน 1 คัน มีกำหนดส่งภายในช่วงกลางปี 2559
กระนั้น แม้ว่ากำลังเตรียมตัวฟ้องร้องบอร์ด ขสมก.อยู่เพื่อให้เป็นกรณีศึกษาถึงการยกเลิกประมูลที่ไม่มีเหตุผล …เสี่ยจิงก็ยังคงยันยืนตามประสานักเรียนเก่าญี่ปุ่นที่อ่อนน้อมถ่อมตนว่า พร้อมเข้าร่วมการประมูลรถเมล์ไฟฟ้า บริษัทมีความพร้อมในการเข้าประมูล ทั้งในด้านกำลังคนในการใช้ผลิต และเงินทุนในการเข้าประมูล ไม่ได้สิ้นเยื่อใยกันเสียเลย
ธุรกิจก็ทำไป อะไรที่ควรทำอย่างอื่น ก็ทำไป…ไม่ต้องย่อท้อ เพราะหนทางนั้นยังมีอีกยาวไกล รวมทั้งโครงการที่เสี่ยจิงมีบทบาทสูงในการสร้างระบบขนส่งมวลชนรางเบาขอนแก่น ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง CHO กับบริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด หรือ KKTT
เสี่ยจิงระบุว่า บริษัทเตรียมนำรายละเอียดการออกแบบและข้อมูลโครงการฉบับสมบูรณ์ เสนอต่อ คสช. ในวันที่ 28 ม.ค.นี้…ส่วนคสช.จะเห็นแก่ความเจริญของขอนแก่นหรือไม่..ขึ้นกับ คสช.เอง
เสี่ยจิง คนสู้งานจริงอย่างนี้ หายากไม่ง่าย…หุ้น CHO คงจะไม่ถูกนักลงทุนหมางเมินนานเกินไปนัก…อิ อิ อิ