ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 282 จุด! รับราคาน้ำมันฟื้น

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) ขานรับราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทหลายแห่ง รวมถึง 3M, พร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (26 ม.ค.) ที่ 16,167.23 จุด พุ่งขึ้น 282.01 จุด หรือ +1.78%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,567.67 จุด เพิ่มขึ้น 49.18 จุด หรือ +1.09% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,903.63 จุด เพิ่มขึ้น 26.55 จุด หรือ +1.41%

ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 3.7% เมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอาจจะทำข้อตกลงร่วมมือกันปรับลดกำลังการผลิต เพื่อสกัดการร่วงลงของราคาน้ำมันและเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันล้นตลาด ทั้งนี้ หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 3.68% หุ้นเชฟรอนดีดตัวขึ้น 3.99% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 8.1% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ดีดตัวขึ้น 7.6% และหุ้นเรนจ์ รีซอสเซส ทะยานขึ้น 7.8%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง โดยบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เปิดเผยยอดขายในไตรมาส 4/2558 อยู่ที่ 1.78 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้สุทธิอยู่ที่ 3.2 พันล้านดอลลาร์ และกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.15 ดอลลาร์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปิดพุ่งขึ้น 4.96%

หุ้น 3M พุ่งขึ้น 5.24% หุ้น P&G ปรับตัวขึ้นกว่า 2.5% หลังจากทั้งสองบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด ส่วนหุ้นแอปเปิลขยับลง 0.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายไอโฟนในช่วงไตรมาส 4/2558 ที่น้อยกว่าการคาดการณ์

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดของสหรัฐ โดยผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ย. โดยมีสาเหตุจากการที่ปริมาณบ้านที่เสนอขายในตลาดมีจำกัด, อัตราดอกเบี้ยจำนองอยู่ในระดับต่ำ และภาวะตลาดแรงงานดีขึ้น

ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนม.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 98.1 ในเดือนม.ค. หลังแตะระดับ 96.3 ในเดือนธ.ค. นักลงทุนจับตาดูการประชุมเฟดในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) จะแถลงผลการประชุมในวันนี้เวลา 14.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 02.00 น. ของเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง ทั้งนี้ นักลงทุนจะจับตาแถลงการณ์หลังการประชุมของเฟด ซึ่งหากมีการระบุถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ ก็อาจเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.

นักลงทุนติดตามดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค. ส่วนวันพฤหัสบดีจะมีการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค. สำหรับวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยการประมาณการครั้งแรกจีดีพีช่วงไตรมาส 4/2558, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

Back to top button